ธ.ก.ส ขานรับนโยบายแก้หนี้ครัวเรือน เดินหน้าโครงการชำระดีมีคืน-ลดดอกเบี้ย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ “ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” รวมทั้งกำหนดประเด็นต่างๆ ในการแก้ปัญหา โดยหน่วยงานต่าง ๆ ได้นำนโยบายไปปฎิบัติเกิดผลเป็นรูปธรรมผ่านโครงการ และมาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน คลายความกังวล และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เป็นอีกสถาบันการเงินของรัฐที่เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ซึ่งได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารหนี้ในระดับจังหวัดและสาขา เพื่อเข้าไปดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดโครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ย 20 % ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท และโครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน ปีบัญชี 2565 เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่มีหนี้สินเป็นภาระหนักโดยลดดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 50 %เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโควิด-19

สำหรับปีบัญชี 2565 โครงการฯ มุ่งเน้นเกษตรกร บุคคล กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล รวมถึงกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งเป็นลูกค้าที่สามารถชำระต้นเงินหรือดอกเบี้ยได้ปกติหรือมีหนี้ค้างชำระ ไม่เกิน 3 เดือน ที่มีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 30 เมษายน 2565 (ยกเว้นหนี้เงินกู้โครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล) ให้มีแรงจูงใจในการชำระหนี้ตามกำหนดเวลา โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากลูกค้าโดยตรงในวันถัดไป วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท

สำหรับเกษตรกรบุคคล รับดอกเบี้ยคืน อัตรา 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่เกินรายละ 1,000 บาท และกลุ่มเกษตรกร นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รับดอกเบี้ยคืน อัตรา 10 %ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สะสมไม่เกิน 3,000 บาท และกรณีกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สะสมรายละไม่เกิน 10,000 บาท

ส่วนโครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน มุ่งเน้นให้เกษตรกรและบุคคล กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล รวมถึงกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) หรือหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีสถานะรับรู้รายได้ดอกเบี้ยค้างรับเกณฑ์เงินสด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 หรือลูกหนี้ที่ออกจากโครงการพักชำระหนี้โครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ครบกำหนด โดยมีอัตราในการลดดอกเบี้ย ได้แก่ 1) ลดดอกเบี้ยไม่เกิน 50% ของดอกเบี้ยค้างชำระทั้งหมด เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญา 2) กรณีชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้น ลดดอกเบี้ย 30% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง 3) กรณีชำระดอกเบี้ยบางส่วน ลดดอกเบี้ย 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สำหรับเกษตรกรและบุคคล ในกรณีที่เป็นลูกหนี้กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล รวมถึงกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ลดดอกเบี้ย 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มิ.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top