ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นต่อในวันอังคาร (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น หลังจีนผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุมโรคโควิด-19 และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน
- ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 416.19 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด หรือ +0.27%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,086.02 จุด เพิ่มขึ้น 38.71 จุด หรือ +0.64%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,231.82 จุด เพิ่มขึ้น 45.75 จุด หรือ +0.35% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,323.41 จุด เพิ่มขึ้น 65.09 จุด หรือ +0.90%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว โดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ พุ่งขึ้น 2% เนื่องจากซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่นั้น ดูเหมือนไม่มีแนวโน้มที่จะสามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันได้อย่างมาก
ตลาดขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลจีนจะลดการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศลงเหลือ 7 วันในสถานที่ซึ่งรัฐจัดให้ และกลับไปกักตัวต่อในที่พักอีก 3 วัน ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ช่วยเพิ่มความหวังเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก และเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่
นอกจากนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีในเดือนหน้านั้น ตลาดได้ขานรับความเห็นของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งระบุว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
หุ้นกลุ่มวัสดุพื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 1.2% โดยราคาสินแร่เหล็กและโลหะพื้นฐานทะยานขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารที่เน้นทำธุรกิจในเอเชีย อาทิ เอชเอสบีซี และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด รวมถึงหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ หลุยส์วิตตอง และริชมอนต์ ซึ่งพึ่งพารายได้ส่วนใหญ่จากจีนนั้น ปรับตัวขึ้น 0.8-1.5%
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นวาเลโอของฝรั่งเศส ซึ่งพุ่งขึ้น 4% หลังทำสัญญาเพื่อติดตั้งระบบช่วยเหลือในการขับขี่ที่ก้าวล้ำให้กับแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับบลิว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มิ.ย. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป