BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 35.50-35.90 จับตาเงินเฟ้อไทย, จ้างงานสหรัฐฯ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.90 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 35.63 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 34.96-35.64 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีครึ่งอีกครั้ง ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังธนาคารกลางชั้นนำของโลกเตือนว่าความพยายามในการลดอัตราเงินเฟ้ออาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรงแต่จำเป็นต้องทำในทันที

โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่าการดำเนินการคุมเข้มนโยบายเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในสหรัฐฯนั้น มีความเป็นไปได้ แต่ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จ ขณะที่ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อต่ำในยุคก่อนโรคระบาดจะไม่กลับมาอีก ทางด้านผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) กล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนสู่การชะลอตัวลง

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) สหรัฐฯร่วงลงแต่เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งส่งผลให้ราคาโลหะที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมลดลงต่อเนื่องจากความวิตกด้านอุปสงค์ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 2,495 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตร 31 ล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า นักลงทุนจะติดตามรายงานการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 14-15 มิ.ย.65 ดัชนี ISM ภาคบริการ และข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายของเฟดในระยะข้างหน้า ขณะที่เทรดเดอร์ได้ปรับลดคาดการณ์เรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดลง โดยผู้ร่วมตลาดประเมินว่าดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯอาจจะแตะระดับสูงสุดที่ราว 3.3% ในเดือน มี.ค.66 โดยลดลงจากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 4% ทั้งนี้ ในปัจจุบันดอกเบี้ย Fed funds อยู่ที่ 1.5-1.75%

ขณะที่ BAY ประเมินว่าตราบใดที่เฟดยังไม่ปรับท่าทีที่แข็งกร้าวในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ แม้ต้องแลกกับความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย เงินดอลลาร์จะยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าต่อได้ในช่วงต้นของไตรมาส 3 นี้ อนึ่ง หากบอนด์ยิลด์ทั่วโลกแผ่วลงต่อเนื่องจะส่งผลให้ค่าเงินเยนพลิกกลับมาแข็งค่าได้

สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับปรุงมาตรการทางการเงินให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้น แต่ยังเน้นมาตรการช่วยเหลือทางการเงินเฉพาะจุด โดย BAY ประเมินว่าท่าทีดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณเพื่อเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตลาดจะให้ความสนใจกับการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.65 ซึ่งคาดว่าจะยังสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ส่วนการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด มีแนวโน้มกดดันค่าเงินบาทในระยะนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top