เงินบาทเปิด 36.25 อ่อนค่าต่อเนื่องจากวานนี้ ให้กรอบวันนี้ 36.15-36.40

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.25 บาท/ดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ต้นปี 2559 โดยอ่อนค่าต่อเนื่องจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.07 บาท/ดอลลาร์

คาดว่าวันนี้เงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั้งในสหรัฐ และสหภาพยุโรป ประกอบกับเมื่อคืนราคาทองคำร่วงลงค่อนข้างเร็ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้มี flow นำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นในวันนี้ ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า และบาทยังคงอ่อนค่าต่อ

สำหรับคืนนี้ ตลาดรอติดตามการรายงานข้อมูลยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.15 – 36.40 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (6 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.73045% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.98954%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 135.63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นที่ปิดตลาดที่ระดับ 135.29 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0182 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.0230 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.017 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในช่วงบ่ายของวันที่ 6 ก.ค. อยู่ระดับ 36.07 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าสุดในรอบ 6 ปี 5 เดือนนับตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.59 มาจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย, เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยและเงินเฟ้อไทยล่าสุดที่เพิ่มสูง 7.66% และยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จนกว่าความหวังคือนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมามากขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น โดยในอดีตค่าเงินบาทเคยอ่อนค่าสุดในช่วงหลังจากประกาศลอยตัวค่าเงินบาท เมื่อปี 40 ซึ่งเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งตามมา โดยเงินบาทอ่อนค่าเรื่อยๆ จนอยู่ระดับ 56.45 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 13 ม.ค.41
  • “คลัง” เร่งหารือ “พลังงาน” ดูแลผลกระทบ “น้ำมัน-ก๊าซ” เฉพาะกลุ่ม “อาคม” ชี้เงินเฟ้อนิวไฮ 13 ปี ไม่ถือว่าสูง เมื่อเทียบประเทศเพื่อนบ้าน
  • นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) คาดเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวการส่งออก และการบริโภคภาคเอกชนขณะที่แรงกดดันจากเงินเฟ้อ และส่วนต่างดอกเบี้ยกับสหรัฐฯ ที่กว้างมากขึ้นน่าจะทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสนี้
  • ททท.เตรียมเสนอ ศบศ.ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า เพื่อให้นักท่องเที่ยวนำเงินมาจับจ่ายใช้สอยในไทยแทน ประมาณ 5,000-7,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดยังคงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยก็ตาม โดยกรรมการเฟดเชื่อว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค.ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงมากขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  • เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.7 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. จากระดับ 53.4 ในเดือนพ.ค.
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 55.3 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.3 หลังจากแตะระดับ 55.9 ในเดือนพ.ค.
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 427,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 11.3 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 11.0 ล้านตำแหน่ง ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (6 ก.ค.) โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 107 ทำสถิติสูงสุดระดับใหม่ในรอบ 20 ปี หลังรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 ในวันพุธ (6 ก.ค.) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 107 ทำสถิติสูงสุดระดับใหม่ในรอบ 20 ปี
  • นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve อีกครั้งเมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ส่งออก ดุลการค้าเดือนพ.ค. รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าระดับ 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือน มิ.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 3.6%
  • ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุในวันพุธ (6 ก.ค.) ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลก “ย่ำแย่ลงอย่างมาก” นับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดย IMF จะเผยแพร่รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับปี 2565 และ 2566 ฉบับใหม่ในช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ หลังจากในเดือนเม.ย. IMF ได้หั่นคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงเกือบ 1% สู่ 3.6% ในปี 2565 และ 2566 ขณะที่เศรษฐกิจโลกขยายตัว 6.1% ในปี 2564

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 65)

Tags: ,