หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นจำกัด อาจมีแรงขายทำกำไรหลังขึ้นไปมาก-พลังงานกดดัน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวขึ้นได้จำกัด หลังขึ้นมาแล้ว 100 จุด ก็อาจจะเห็นการขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยการปรับขึ้นยังได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ปัจจัยกดดันอาจเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ให้แนวรับที่ 1,620-1,624 จุด และแนวต้าน 1,636-1,640 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้จำกัดหลังขึ้นมา 100 จุดแล้ว โดยยังได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันด้วยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง 3% อาจกระทบหุ้นกลุ่มพลังงานให้มีแรงขายออกมา

อย่างไรก็ตามมองราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงก็จะทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงตามไปด้วย ทำให้เป็นผลดีต่อกำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น และส่งผลดีต่อหุ้นที่มีการเติบโตจากภายใน อย่างธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก โรงแรมและการท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

ทั้งนี้ ภาพรวมการลงทุนในวันนี้น่าจะเห็นการเวียนกลุ่มเล่นสลับกัน โดยอาจมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน และมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่มีการเติบโตจากภายในแทน

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกและลบ รอดูปัจจัยใหม่ๆ ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และการรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ให้แนวรับที่ 1,620-1,624 จุด และแนวต้าน 1,636-1,640 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 34,152.01 จุด พุ่งขึ้น 239.57 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,305.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,102.55 จุด ลดลง 25.50 จุด หรือ -0.19%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,952.65 จุด เพิ่มขึ้น 83.74 จุด หรือ +0.29%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,995.77 จุด เพิ่มขึ้น 165.25 จุด หรือ +0.83% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,282.10 จุด เพิ่มขึ้น 4.22 จุด หรือ +0.13%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ส.ค.65.) ที่ระดับ 1,629.95 จุด เพิ่มขึ้น 4.70 จุด, +0.29%
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,910.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ส.ค..65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. (15 ส.ค.) ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 86.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ส.ค.) อยู่ที่ 11.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.34 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดรอรายงานประชุมเฟด-ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐ
  • ครม.ถกวาระลับ ผ่าน พ.ร.ก. ให้คลังค้ำเงินกู้กองทุนน้ำมันฯ ไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท ผวาราคาพลังงานยังทรงตัวสูง “วิษณุ” แจ้งต้องผ่านสภาก่อนกู้จริง-ไม่จำเป็นต้องกู้สูงตามกรอบ พร้อมดึง 1.4 หมื่นล้าน จากทุน-กำไรส่วนเกินกองอนุรักษ์พลังงานเข้าคลัง
  • 5 ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยื่นกรมการค้าภายใน ขอปรับขึ้นซองละ 2 บาท ชี้ต้นทุนแป้งลาสี-น้ำมันปาล์มสูงขึ้น อ้างขาดทุนจากการผลิต ยืนยันยังไม่หันไปส่งออกทดแทน เพราะกำไรมากกว่า ย้ำสินค้าไม่ขาดแคลน ขอประชาชนอย่าซื้อกักตุน “จุรินทร์” ชี้ราคา 8 บาท ยอมรับต้นทุนสูงขึ้นจริง ระบุขึ้นได้ตามเหตุผล ถ้าต้นทุนลงต้องลดราคาลง เผยผลดำเนินงาน ครึ่งปี “มาม่า” กำไรพันล้าน
  • “กรุงไทย” ชี้พบสัญญาณ “ต่างชาติ” แห่เก็งกำไร “เงินบาท” ผ่านการลงทุนซื้อบอนด์ระยะสั้นทะลัก ครึ่งเดือนส.ค. 1.8 หมื่นล้าน นับตั้งแต่ต้นปีรวมยอดซื้อสุทธิ 7.4 หมื่นล้าน ขานรับเศรษฐกิจไทย-ท่องเที่ยว ฟื้นตัว “ไทยพาณิชย์” ชี้เงินต่างชาติไหลเข้า บอนด์ระยะสั้นช่วงบาทแข็งเร็วสุดในภูมิภาค ทั้งเก็งกำไรและใช้เป็นแหล่งพักเงินรอจังหวะลงทุนหุ้นไทย “สมาคมตราสารหนีไทย” มองฟันด์โฟลว์เข้าบอนด์สั้นยังไม่มีมูลค่ามาจนมีนัยสำคัญพร้อมติดตามต่อไป
  • ธปท. เตรียมออกมาตรการใหม่ “สินเชื่อปรับตัว” คาดวงเงิน 6.5 หมื่นล้าน รองรับขอกู้ “เอสเอ็มอี” เพียงพอ หวังช่วยลูกหนี้ พลิกฟื้นธุรกิจหลังโควิด-19 ชี้ปัจจุบันมีลูกหนี้ขอเข้าโครงการช่วยเหลือพุ่ง เหตุต้นทุนพุ่ง
  • บริษัท ซิปเม็กซ์ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 เกี่ยวกับความคืบหน้าคำขอพักชำระหนี้ของกลุ่มบริษัทโดยระบุว่า จากกรณีที่บริษัท Zipmex Asia Pte.Ltd. และบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด และ Zipmex Pte.Ltd. รวมถึงบริษัทในเครือ (ซิปเม็กซ์) ได้ยื่นคำขอพักชำระหนี้ต่อศาลสิงคโปร์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ศาลสิงคโปร์ได้อนุญาตพักชำระหนี้ตามที่ซิปเม็กซ์ร้องขอครอบคลุมระยะเวลาถึงวันที่ 2 ธ.ค.65 ส่งผลให้ทั้ง 5 บริษัทของซิปเม็กซ์ได้รับการคุ้มครองไม่ให้เจ้าหนี้ที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของศาลสิงคโปร์ ยื่นฟ้องหรือการดำเนินการใดๆ เป็นการชั่วคราว ศาลยังได้กำหนดให้ซิปเม็กซ์จัดประชุม Town Hall ให้แก่เจ้าหนี้และลูกค้าภายใน 1 เดือน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งนี้โดยเฉพาะกำหนดเวลาที่ลูกค้าจะสามารถเข้าถึง Z Wallet ได้

หุ้นเด่นวันนี้

  • PTG (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 18.30 บาท แนวโน้มผลประกอบการเป็นขาขึ้นต่อเนื่องใน 2H22 ตามการ Reopen หนุนปริมาณขายน้ำมัน ค่าการตลาดที่คาดทยอยดีขึ้นเป็น 1.8-1.9 บาท/ลิตร รวมถึงธุรกิจ Non-Oil ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดกำไรปี 2565 +77% Y-Y และจะเร่งขึ้นต่อเนื่อง +27% Y-Y ในปี 2566 ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด 2023PER เพียง 11 เท่า
  • SCGP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 62 บาท ผลกำไรทยอยฟื้นตัว โดยไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 1,856 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11.9%qoq ขณะที่ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากราคาพลังงานที่ลดลงคาดหนุน GPM เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจ E-Commerce ยังขยายตัวเป็นบวกต่อธุรกิจ Packaging ของ SCGP
  • HMPRO (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 14.70 บาท “ปรับกลยุทธ์โดยควบรวม Mega Home และมุ่งหน้าขยายสาขา” เสริมยอดขายฝั่งวัสดุก่อสร้าง (Position คือสำหรับช่างและผู้รับเหมา) ผ่านการขยายสาขาของ Mega Home 5 สาขาในปีนี้ คาด SSSG ในปี 65 โต 3-5%YoY Gross margin มีโอกาสดีขึ้นใน 2H22E (6M22เท่ากับ 26.68%) จากการปรับ Product Mix , DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 6.2 พัน ลบ. และ 6.8 พัน ลบ.+15.4%YoY, +8.3%YoY ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top