ผลการศึกษาชี้ภาคเอกชนกลุ่ม G7 ปล่อยมลพิษเกินกำหนดของความตกลงปารีส

CDP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการข้อมูลโดยไม่แสวงหาผลกำไร และโอลิเวอร์ ไวแมน บริษัทที่ปรึกษาการจัดการระดับโลก เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศ G7 ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายในการลดการปล่อยมลพิษที่ให้ไว้ในความตกลงปารีส

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภายใต้ความตกลงปารีสซึ่งทำขึ้นในปี 2558 นั้น ประเทศต่าง ๆ ตกลงที่จะปรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เร็วพอที่จะจำกัดไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส และตั้งเป้าที่จะรักษาให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าจะช่วยหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดบางประการได้

การวิเคราะห์ของ CDP และโอลิเวอร์ ไวแมนแสดงให้เห็นว่า กลุ่ม G7 ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐ กำหนดเป้าหมายการปล่อยมลพิษของภาคเอกชนโดยรวมไว้ที่ 2.7 องศาเซลเซียส

โลร็องต์ บาบิเคียน ผู้อำนวยการระดับโลกฝ่ายตลาดทุนของ CDP กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ สำหรับทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะประเทศที่เศรษฐกิจก้าวหน้าที่สุดเท่านั้น ที่จะมีอุตสาหกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามร่วมกันเพียงเล็กน้อย สถานการณ์กำลังรุนแรงขึ้น แต่กำลังใกล้ถึงการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP27) เราต้องทำให้ได้ตามเป้า 1.5 องศาเซลเซียส”

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า บริษัทต่าง ๆ ในเยอรมนี อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ มีความมุ่งมั่นมากที่สุดในกลุ่ม G7 ในการกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษ โดยตั้งเป้าว่าจะทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.2 องศาเซลเซียส ขณะที่ฝรั่งเศสอยู่ที่ 2.3 องศาเซลเซียส และอังกฤษอยู่ที่ 2.6 องศาเซลเซียส

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top