นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 4% – 4.5% ภายในเดือนธ.ค.ปีนี้ และจากนั้นควรพักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายบอสติกกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์นในวันพุธ (5 ต.ค.) โดยระบุว่า “ในความคิดของผมนั้น ผมต้องการให้เฟดปรับขึ้นอึตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4% – 4.5% ภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นก็ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าว เพื่อประเมินผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ”
ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าเฟดบางรายต้องการให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.5% – 4.75% ในภายในช่วงต้นปี 2566 ก่อนที่จะหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ นายบอสติกกล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดพักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเดือนธ.ค.ปีนี้ อย่างไรก็ดี เขาคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2566
นอกจากนี้ นายบอสติกยังคงยึดมั่นในภารกิจการฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% พร้อมแสดงมุมมองเชิงบวกว่า เฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้โดยไม่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากนัก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 65)
Tags: ขึ้นดอกเบี้ย, ดอกเบี้ยนโยบาย, ธนาคารกลางสหรัฐ, ราฟาเอล บอสติก, สหรัฐ, เฟด