IFS ชี้อังกฤษต้องเลือกลดการใช้จ่ายหรือขึ้นภาษี เพื่อคุมหนี้สาธารณะ

สถาบันการคลังศึกษา (IFS) เปิดเผยรายงานในวันนี้ (11 ต.ค.) โดยระบุว่า นายควาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษจำเป็นต้องลดการใช้จ่ายภาครัฐ 6.2 หมื่นล้านปอนด์ (6.9 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือปรับขึ้นภาษี เพื่อหยุดยั้งหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

รายงานระบุว่า อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวสัญญาใหม่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่นายกวาร์เต็งประกาศแผนลดภาษีวงเงิน 4.5 หมื่นล้านปอนด์ นอกเหนือจากมาตรการให้เงินช่วยเหลือด้านค่าพลังงานชั่วคราวต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ

นายกวาร์เต็งพยายามที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาดด้วยการยกเลิกแผนลดภาษีเงินได้อัตราสูงสุดของอังกฤษ ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินให้แก่ผู้เสียภาษี 2 พันล้านปอนด์ ตลาดจนร่นระยะเวลาในการเปิดเผยคาดการณ์ทางเศรษฐกิจรอบใหม่และแผนการลดหนี้เข้ามาเป็นวันที่ 31 ต.ค.

แต่ IFS ระบุว่า นายกวาร์เต็งจะเผชิญกับความยากลำบากในการโน้มน้าวให้ตลาดเชื่อว่า แผนของเขาจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวแตะ 2.5% ต่อปีตามที่นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้สัญญาไว้

ทั้งนี้ การกู้ยืมของรัฐบาลอังกฤษมีแนวโน้มแตะ 1.94 แสนล้านปอนด์ในปีงบการเงินนี้ และจะอยู่ที่ 1.03 แสนล้านปอนด์ในปี 2569-2570 ซึ่งมากกว่าที่รัฐบาลเคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อเดือนมี.ค.ถึง 7.1 หมื่นล้านปอนด์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top