KTB คาดส่งออกไทยยังโตต่อเนื่องแต่เผชิญความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอชัดเจนขึ้น

ศูนย์วิจัยกรุงไทย Krungthai COMPASS ประเมินว่า การส่งออกของไทยในระยะข้างหน้ายังขยายตัวได้ แต่มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวชัดเจนขึ้น

แม้ว่าการส่งออกขยายตัวได้ต่อเนื่องจากการคลี่คลายของปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลให้การผลิตของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และอาจสนับสนุนการส่งออกในระยะข้างหน้า แต่การส่งออกไปยังตลาดหลักยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณแผ่วลง สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน ก.ย.65 โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นตลาดการส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของไทย โดยดัชนีดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 บ่งชี้ถึงภาคการผลิตของจีนที่อ่อนแอลง ตามแรงกดดันจากปัจจัยภายในประเทศจีน ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากนโยบาย zero-covid

รวมถึงปัญหาภัยแล้ง และความเปราะบางของภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน ประกอบกับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะอุปสงค์จากต่างประเทศที่ชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกของจีนในเดือน ก.ย. ขยายตัว 5.7%YoY (เดือน ส.ค. +7.1%YoY) ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งปัจจัยข้อหลังนี้ยังสร้างผลลบเชื่อมโยงไปยังการค้าที่พี่งพาห่วงโซ่อุปทานของจีน

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น จากภาวะเงินเฟ้อสูงต่อเนื่อง และการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด อาจเป็นความเสี่ยงต่อการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า

“การส่งออกของไทยในระยะข้างหน้ายังขยายตัวได้ แต่มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และเครื่องชี้ล่าสุดของจีน สะท้อนกิจกรรมการผลิตที่มีแนวโน้มชะลอต่อเนื่อง อีกทั้ง เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น จากภาวะเงินเฟ้อสูงต่อเนื่อง และการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดอาจส่งผลต่อการส่งออกสินค้าในระยะถัดไป” บทวิเคราะห์ระบุ

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน ก.ย.65 โดยพบว่า มูลค่าส่งออกเดือน ก.ย. อยู่ที่ 24,919 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 7.8%YoY ใกล้เคียงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งขยายตัว 7.5%YoY โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 จากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง และสินค้าเกษตรที่กลับมาขยายตัวได้ จากการคลี่คลายของปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งออกรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอานิสงค์ของการอ่อนค่าของเงินบาท โดยการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกขยายตัว 10.6% ส่วนการส่งออกทองคำเดือนนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 121.5% ทำให้เมื่อหักทองคำแล้ว มูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัว 6.7%YoY

ขณะที่มูลค่าการนำเข้าเดือน ก.ย. อยู่ที่ 25,772 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 15.6%YoY ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ขยายตัว 21.3%YoY จากการหดตัวต่อเนื่องของสินค้ายานพาหนะฯ (-5.9%YoY) และสินค้าทุน (-5.8%YoY) ขณะที่สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปขยายตัวชะลอลง (+6.3%YoY) อย่างไรก็ตาม สินค้าอุปโภคบริโภค (+13.5%YoY) และสินค้าเชื้อเพลิง (+80.2%YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง ด้านดุลการค้าเดือน ก.ย. ขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ระดับ -853 ล้านดอลลาร์ฯ โดยดุลการค้า 9 เดือนแรกขาดดุลสะสม -14,985 ล้านดอลลาร์ฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top