สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยเงินเยนของญี่ปุ่นและเงินวอนของเกาหลีใต้ เนื่องจากการส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่าง ๆ เป็นวงกว้าง
เงินเยนแข็งค่าขึ้น 1.1% แตะระดับ 136.50 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินวอนซึ่งมีความอ่อนไหวต่อความเสี่ยง แข็งค่าขึ้น 1.7% ทำสถิติพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,300 วอนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. ส่วนดัชนี Bloomberg JPMorgan Asia Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินในเอเชียซึ่งเจพีมอร์แกนจัดทำร่วมกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
เทรดเดอร์ต่างก็มีปฏิกิริยาต่อการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
ทั้งนี้ นายพาวเวลได้กล่าวปาฐกถาว่าด้วยนโยบายการเงินและการคลังที่สถาบันบรู้กกิงส์ในวันพุธ (30 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า “ผมคิดว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เราจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อเราได้ปรับขึ้นไปจนถึงระดับที่เรามั่นใจว่ามีศักยภาพมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้อ่อนแรงลง สำหรับช่วงเวลาที่จะเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น อย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นช่วงการประชุมเดือนธ.ค.”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นรายเดือนแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 6 ปี โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนี Bloomberg JPMorgan Asia Dollar Index พุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ย. และมีแนวโน้มที่จะทำสถิติรายเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2559
ยูจีเนีย วิกโทริโน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ประจำภูมิภาคเอเชียจากบริษัท Skandinaviska Enskilda Banken AB ในสิงคโปร์กล่าวว่า “แม้ว่าเฟดสื่อสารอย่างชัดเจนกับตลาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แต่การปรับตัวขึ้นของดอลลาร์เริ่มส่งสัญญาณว่ากำลังจะสิ้นสุดลง สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียมีโอกาสที่จะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังจากที่อ่อนค่าลงอย่างมากในปีนี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 65)
Tags: Fed, ค่าเงิน, ธนาคารกลางสหรัฐ, อัตราแลกเปลี่ยน