ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ตามคาดในการประชุมครั้งล่าสุด และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานขึ้น เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,081.55 จุด ลดลง 74.66 จุด หรือ -0.27%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,449.15 จุด ลดลง 224.30 จุด หรือ -1.14% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,167.73 จุด ลดลง 8.80 จุด หรือ -0.28%
ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอกว่าคาดในวันนี้ (15 ธ.ค.) เนื่องจากการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ร่วงลง 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจจะลดลง 3.7% และปรับตัวลงรุนแรงกว่าในเดือนต.ค.ที่ขยับลงเพียง 0.5%
การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของจีนปรับตัวขึ้นเพียง 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 3.6% และชะลอตัวลงจากเดือนต.ค.ที่มีการขยายตัว
ขณะที่ เหล่าผู้นำจีนมีกำหนดจัดการประชุมการทำงานเศรษฐกิจกลางประจำปีนัดสำคัญในวันนี้และพรุ่งนี้
ในสหรัฐ ดัชนี S&P500 ร่วงติดต่อกัน 2 วันในวันพุธ (14 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์และ Nasdaq ร่วงแตะระดับต่ำสุดของวัน หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าต้องรอคอยข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม เฟดจึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อเงินเฟ้อได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้นเอเชีย