สหรัฐแนะจีนเร่งคุมโควิด กังวลระบาดหนักอาจเพิ่มเชื้อกลายพันธุ์ใหม่

นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้แสดงความกังวลว่า โรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักจนฉุดไม่อยู่ในประเทศจีน อาจจะนำไปสู่การกลายพันธุ์ใหม่ ๆ ของไวรัส โดยขณะนี้จีนซึ่งมีประชากรสูงที่สุดในโลกยังคงเผชิญกับผลกระทบของการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ซึ่งเป็นนโยบายที่ควบคุมการแพร่ระบาดได้

“เมื่อพูดถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนขณะนี้ เราต้องการเห็นการแก้ไข เพราะเราต่างก็รู้ดีว่า เมื่อใดก็ตามที่ไวรัสแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัส และสร้างความเสี่ยงให้กับประชาชนในทุก ๆ ที่” นายไพรซ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (19 ธ.ค.)

ทั้งนี้ เมืองต่าง ๆ ของจีนกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจจะปกปิดความจริงเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อ หลังจากที่จีนยืนกรานมาเป็นเวลานานหลายปีว่าสามารถจัดการกับโควิด-19 ได้อย่างมีศักยภาพมากกว่าประเทศฝั่งตะวัน โดยรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยของจีนได้กันผู้สื่อข่าวไม่ให้เข้าไปสังเกตการณ์ในสุสานแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งเมื่อวันจันทร์ (19 ธ.ค.)

“สหรัฐคาดหวังว่าจีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากแพร่ระบาดระลอกใหม่ในจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วย นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนยังสร้างความวิตกกังวลต่อทั่วโลก เนื่องจากจีนมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก การที่จีนสามารถควบคุมโควิด-19 ได้ไม่เพียงแต่จะเกิดผลดีกับจีนเท่านั้น แต่ยังดีกับทุกประเทศทั่วโลกด้วย”

นายไพรซ์กล่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า สหรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่ไปยังกรุงปักกิ่งในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งนำโดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศ

ด้านสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันยังไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีใด ๆ เกี่ยวกับความเห็นของนายไพรซ์

การแพร่ระบาดระลอกใหม่ในจีนเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลประกาศยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 ซึ่งรวมถึงมาตรการกักตัว โดยจีนบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนชาว 1.4 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่จีนยกเลิกนโยบายควบคุมโควิด-19 เกิดขึ้น หลังจากประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงในเมืองต่าง ๆ เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ย. โดยประชาชนได้แสดงความไม่พอใจที่เกิดเหตุการณ์ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในอาคารแห่งหนึ่งที่เมืองอุรุมชี เมืองหลวงของซินเจียง ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ดังกล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top