นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) (KGI) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PRTR ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นประมาณ 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง IPO แล้ว คาดว่าจะจัดงานนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ตามแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นปี 66
วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ PRTR จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการและจ่ายคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 PRTR มีทุนจดทะเบียนจำนวน 300,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท และมีทุนที่ชำระแล้วจำนวน 225,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 450,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ 10 พ.ย.65 และภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ประกอบด้วย กลุ่มนางสาวริศรา เจริญพานิช สัดส่วนก่อนและหลัง IPO อยู่ที่ 21.4% และ 17.8% ตามลำดับ และกลุ่มนางสาวจารุวรรณ สัดส่วนก่อนและหลัง IPO อยู่ที่ 22.4% และ 7.5% ตามลำดับ ส่วนที่เหลือคือผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ
ขณะที่ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) ตกลงจะซื้อหุ้น PRTR จำนวน 90,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PRTR ภายหลัง IPO จากผู้ถือหุ้นเดิมของ PRTR จำนวน 3 ราย (นายพอล เดวิด ชอนดี้, นางสาวจารุวรรณ พานิชเจริญ และนายริชาร์ด ฮิวจ์ เบนเนต) ในราคาเท่ากับราคา IPO และจะนำหุ้นของ PRTR ทั้งจำนวนฝากในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRTR เปิดเผยว่า แผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตสู่ระดับสากล พร้อมกับความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำ HR ยุคดิจิทัล ที่สอดรับไปกับการดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นขององค์กรธุรกิจ โดยมุ่งเน้นบริการด้านทรัพยากรบุคคลครบวงจร (Total HR Solutions) เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งสำคัญทำให้องค์กรอยู่รอด ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ต้องเร่งสปีดให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยผลักดันให้องค์กรเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ PRTR จึงมุ่งหวังช่วยยกระดับให้ HR ก้าวเข้าสู่ HR 4.0 ได้อย่างเต็มตัว มุ่งมั่นที่จะสร้างการจ้างงานที่ดีขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสังคมที่ดีขึ้น ด้วยวิสัยทัศน์ เป็นองค์กรด้านบุคลากรอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภาพรวมผลการดำเนินงาน PRTR มีความแข็งแกร่ง แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะหดตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ในช่วง 63 เป็นต้นมา แต่รายได้ของ PRTR ระหว่างปี 62-64 ยังคงเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 10.8% โดยมีรายได้จากการให้บริการ 4,525 ล้านบาท 4,866.3 ล้านบาท และ 5,555.9 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 122.0 ล้านบาท 120.7 ล้านบาท และ 183.2 ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าในประเทศไทย
งวด 6 เดือนแรกของปี 65 มีรายได้จากการให้บริการ 2,960.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,669.1 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 96.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 79.3 ล้านบาท
สัดส่วนรายได้แบ่งตามประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ Outsource สัดส่วน 95.7% ธุรกิจ Recruitment 4.1% และ ธุรกิจ Integrated Learning Service 0.1% ของรายได้รวม และมีอัตรากำไรสุทธิ 3.3% มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงขึ้นอยู่ที่ 57.9% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นจากการขยายฐานรายได้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 65)
Tags: IPO, JMART, PRTR, พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป, สุวิมล ศรีโสภาจิต, หุ้นไทย, เจ มาร์ท, ไอพีโอ