นายหลุยส์ เครสเซนซิโอ ซานโดวาล รัฐมนตรีกลาโหมเม็กซิโก แถลงเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) ว่า กองกำลังความมั่นคงเม็กซิโกจับกุมตัวนายโอบิดิโอ กุซมัน-โลเปซ ลูกชายของ “เอล ชาโป” (El Chapo) หรือ นายโฆอากิน กุซมัน เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ที่ติดคุกอยู่ในขณะนี้ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) ในรัฐซินาโลอา ทางตอนเหนือของประเทศ จนนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบและการยิงปะทะกับสมาชิกแก๊งค้ายาเป็นเวลาหลายชั่วโมง
บรรดาแก๊งค้ายาในซินาโลอาซึ่งครั้งหนึ่งเคยนำโดยเอล ชาโป ตอบโต้ด้วยการจุดไฟเผายานพาหนะ ปิดกั้นถนน และยิงต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงในพื้นที่ โดยนายซานโดวาลรายงานว่า สมาชิกแก๊งผู้ต้องสงสัย 19 ราย และเจ้าหน้าที่ทหาร 10 ราย ถูกสังหารระหว่างเหตุรุนแรงดังกล่าว และอีก 21 คนถูกจับกุม ส่วนนายโอบิดิโอถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังเรือนจำกลางที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุดในกรุงเม็กซิโกซิตี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ แห่งเม็กซิโก กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีแผนส่งตัวนายโอบิดิโอข้ามแดนไปยังสหรัฐ
“องค์ประกอบ (ของคดี) จะต้องถูกนำเสนอ และผู้พิพากษาในเม็กซิโกจะเป็นผู้ตัดสิน มันเป็นกระบวนการ…ไม่ใช่แค่การร้องขอ” ปธน.โลเปซ โอบราดอร์ กล่าว พร้อมเสริมว่า ไม่มีกองกำลังสหรัฐเข้าช่วยเหลือในการจับกุมนายโอบิดิโอ
นายซานโดวาลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารอีก 1,000 นายกำลังมุ่งหน้าไปที่ซินาโลอา บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของเม็กซิโก เพื่อสนับสนุนมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องประชาชน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้โดยสารในเที่ยวบินของสายการบินแอโรเม็กซิโกที่สนามบินกูเลียกัน หลบอยู่ใต้ที่นั่งของตน เนื่องจากมีการยิงกันบนรันเวย์ระหว่างฝ่ายทางการกับฝ่ายแก๊งค้ายา
“ขณะที่กำลังเร่งเครื่องขึ้นเทกออฟ เราได้ยินเสียงปืนใกล้กับเครื่องบินมาก และนั่นคือตอนที่เราทุกคนหมอบลงกับพื้น” นายดาบิด เตเยซ ผู้โดยสารคนหนึ่งกล่าว
ด้านแอโรเม็กซิโกยืนยันว่า เครื่องบินลำหนึ่งของตนถูกยิงที่กูเลียกัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนสนามบินได้เปิดทำการอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) หลังจากที่ปิดไปเนื่องจากเหตุรุนแรงดังกล่าว
อนึ่ง ในปี 2552 ปฏิบัติการจับกุมนายโอบิดิโอเกิดความล้มเหลว สร้างความอับอายให้กับรัฐบาลของปธน.โลเปซ โอบราดอร์ โดยในเวลานั้น นายโอบิดิโอถูกกองกำลังความมั่นคงควบคุมตัวไว้ได้ในช่วงสั้น ๆ แต่ฝ่ายแก๊งค้ายาตอบโต้ด้วยความรุนแรง บีบให้เจ้าหน้าที่ต้องยอมปล่อยตัวนายโอบิดิโอ เพื่อป้องกันการแก้แค้นจากสมุนของนายโอบิดิโอ
ปัจจุบัน นายโอบิดิโอถูกจับกุมอีกครั้งก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอเมริกาเหนือในกรุงเม็กซิโกซิตี ที่ซึ่งปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐจะเข้าร่วมด้วย โดยวาระการประชุมสุดยอดดังกล่าวรวมถึงการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคง
ด้านสหรัฐได้พยายามให้เม็กซิโกส่งตัวนายโอบิดิโอข้ามแดนมาเป็นเวลานาน โดยในปี 2564 กระทรวงการต่างประเทศได้ประกาศให้รางวัล 5 ล้านดอลลาร์สำหรับเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมและการลงโทษนายโอบิดิโอได้ โดยนายโอบิดิโอผู้มีฉายาว่า “เดอะเมาส์” ถูกตั้งข้อหาร่วมกันค้าโคเคน, เมทแอมเฟตามีน และกัญชาในสหรัฐ
กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า นายโอบิดิโอดูแลห้องแล็บเมทแอมเฟตามีนในซีนาโลอา ซึ่งผลิตยาได้ “3,000-5,000 ปอนด์” ต่อเดือน นอกจากนี้ นายโอบิดิโอยังเป็นผู้สั่งฆ่าหลายครั้ง รวมทั้งนักร้องชื่อดังชาวเม็กซิกันที่ปฏิเสธที่จะมาแสดงในงานแต่งของนายโอบิดิโอ
ทั้งนี้ ยาเสพติด “เฟนทานิล” ที่หลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐ ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดมากเป็นประวัติการณ์นั้น ได้เพิ่มแรงกดดันในการจับตัวนายโอบิดิโอ โดยสำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐ เชื่อว่า แก๊งซินาโลอาและอีกแก๊งหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุที่ยาเฟนทานิลระบาดหนักในสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ม.ค. 66)
Tags: เม็กซิโก, เอล ชาโป, แก๊งค้ายาซินาโลอา