นักระบาดวิทยาระดับสูงของจีนเปิดเผยว่า จุดสูงสุดของคลื่นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนนั้นคาดว่าจะกินเวลานาน 2-3 เดือน และในไม่ช้าก็จะแพร่กระจายไปยังพื้นที่ชนบทที่กว้างขวางที่ซึ่งค่อนข้างขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์
การติดเชื้อคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นในแถบชนบท เนื่องจากประชาชนหลายร้อยล้านคนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ม.ค. และเป็นที่ทราบกันดีตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาดว่า เป็นช่วงที่มีการย้ายถิ่นฐานประจำปีของผู้คนจำนวนมากที่สุดในโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (13 ม.ค.) ว่า ในเดือนที่แล้ว จีนได้ยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด รวมถึงการสั่งล็อกดาวน์ประชาชนจำนวนมาก ซึ่งจุดชนวนการประท้วงครั้งประวัติศาสตร์ทั่วประเทศในช่วงปลายเดือนพ.ย. 2565 และในท้ายที่สุดจีนก็ได้เปิดพรมแดนอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา
สื่อของรัฐบาลเปิดเผยว่า การยกเลิกมาตรการคุมเข้มอย่างปัจจุบันทันด่วนได้แพร่เชื้อไวรัสสู่ประชากร 1.4 พันล้านคนของจีน ซึ่งมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคที่การติดเชื้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวไฉซินรายงานว่า นายเจิ้ง กวง อดีตหัวหน้านักระบาดวิทยาประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนระบุว่า ภาวะเลวร้ายที่สุดของการแพร่ระบาดนั้นยังไม่จบสิ้นลง
“เราให้ความสำคัญกับเมืองใหญ่เป็นหลัก ตอนนี้ถึงเวลามุ่งเป้าไปยังพื้นที่ชนบท” นายเจิ้งกล่าว
นายเจิ้งกล่าวอีกว่า ชาวบ้านจำนวนมากในชนบทที่ซึ่งการแพทย์ยังไม่เจริญนั้นได้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง รวมทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ
ด้านองค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนในสัปดาห์นี้ถึงความเสี่ยงของการเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 66)
Tags: COVID-19, จีน, โควิด-19