สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIESR) เปิดเผยคาดการณ์ว่า อังกฤษจะรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ แต่ประชาชนจะเผชิญกับมาตรฐานการครองชีพที่ลดลงอย่างรุนแรงตามมา เนื่องจากเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนหลายล้านคนเผชิญปัญหาในการชำระค่าใช้จ่าย
NIESR ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของปี 2566 ลงสู่ระดับ 0.2% จากเดิมซึ่งคาดไว้ที่ 0.7% ในเดือนพ.ย. และปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2567 ลงเหลือ 1.0% จากเดิมที่ 1.7%
จักจิต ชาดา ผู้อำนวยการ NIESR กล่าวว่า การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นภาพที่หดหู่อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับมาตรฐานการครองชีพซึ่งคาดว่าจะย่ำแย่ลงอีกในปีนี้หลังลดลงอย่างหนักเมื่อปี 2565 เนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น
รายงานระบุว่า ในปีงบประมาณ 2566/2567 ครัวเรือนอังกฤษ 1 ใน 4 ครัวเรือน จะไม่สามารถจ่ายค่าอาหารและพลังงานได้โดยไม่ต้องใช้เงินเก็บ เงินกู้ หรือขอความช่วยเหลืออื่น ๆ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1 ใน 5 ในปี 2565/2566
NIESR คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคจะกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในปี 2568 โดยในปี 2566 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8.3% และลดลงสู่ระดับ 4.2% ในปี 2567 ซึ่งมากกว่าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คาดการณ์ไว้กว่าเท่าตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.พ. 66)
Tags: GDP, อังกฤษ, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจอังกฤษ