ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสาน หลังเศรษฐกิจจีนขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ที่ 4.5% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4% โดยกรณีดังกล่าวหนุนให้เงินหยวนออนชอร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,675.32 จุด เพิ่มขึ้น 160.54 จุด หรือ +0.56%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,626.64 จุด ลดลง 155.81 จุด หรือ -0.75% และดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,384.85 จุด ลดลง 0.76 จุด หรือ -0.02%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 4.5% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะขยายตัว 4% หลังจากที่มีการขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 4/2565
ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาลจีนประกาศยุตินโยบายซีโร่โควิดซึ่งเคยถูกบังคับใช้เป็นเวลานานถึง 3 ปี และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ของจีนปรับตัวขึ้น 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% แต่ตัวเลขดังกล่าวแข็งแกร่งกว่าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่มีการขยายตัว 2.4%
ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 10.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 7.4% และแข็งแกร่งในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ขยายตัวเพียง 3.5%
ดัชนีหลักทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ (17 เม.ย.) ขณะที่ นักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนครั้งล่าสุดในสหรัฐ เพื่อประเมินความเข้มแข็งของบริษัทในสหรัฐ
ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.33% ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.3% และดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้น 0.28%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย