นายรฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยว่า บริษัทมองว่าทิศทางของการเสนอขายหนี้ทั้ง NPL และ NPA จากธนาคารพาณิชย์ในปีนี้ยังมีแนวโน้มการขายออกมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นมูลค่าที่มาก หลังจากที่ไตรมาส 1/66 การขายหนี้ของธนาคารพาณิชย์ออกมาในไตรมาสเดียวสูงถึง 6.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าในช่วงปกติก่อนโควิด-19 ที่ทั้งปีอยู่ที่ 5-6 หมื่นล้านบาท ทำให้ในไตรมาส 1/66 บริษัทสามารถลงทุนซื้อหนี้เข้ามาบริหารแล้ว 2.65 พันล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี 9 พันล้านบาท และมีโอกาสที่จะทะลุไปถึงระดับ 1 หมื่นล้านบาท
การเข้าซื้อหนี้ของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้จะหันมาเน้นการซื้อทรัพย์หรือหนี้ในกลุ่มธุรกิจ (Corporate loan) เข้ามาเติมพอร์ตบริหารหนี้ของบริษัทมากขึ้น จากช่วงที่ผ่านมาได้มีการเข้าซื้อหนี้กลุ่มรายย่อยจากธนาคารพาณิชย์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปตามการเสนอขายของธนาคารพาณิชย์ที่ออกมา ทำให้พอร์ตหนี้กลุ่มรายย่อยของบริษัทเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าหนี้กลุ่มธุรกิจ ซึ่งบริษัทยังคงมีการรักษาสมดุลของพอร์ตบริหารหนี้
ด้านทิศทางของผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/66 ยังเห็นแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะการเรียกเก็บหนี้ที่สามารถทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการเรียกเก็บเงินของหนี้ NPA ที่ทำได้ดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการเสนอขายทรัพย์ NPA ที่ดีขึ้น ซึ่งในไตรมาส 1/66 สามารถเรียกเก็บเงินจาก NPA ได้แล้ว 1.25 พันล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีในส่วของการเรียกเก็บ NPA ที่ 7.3 พันล้านบาท ซึ่งมีโอกาสทำได้เกินเป้าหมาย และยังเห็นทิศทางในไตรมาส 2/66 ยังสามารถทำได้ดีขึ้น มาจากการเสนอขายในงาน Money Expo ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ส่วนการเรียกเก็บหนี้ NPL ยังสามารถเรียกเก็บได้เรื่อยๆ แต่ยังเป็นดีขึ้นมาก แม้ว่าภาพรวมของความสามารถในการชำระหนี้และรายได้ของลูกหนี้จะกลับมา แต่ว่ายังมีลูกหนี้บางส่วนที่ยังขอเลื่อนการชำระอยู่บ้าง ทำให้การเรียกเก็บหนี้ยังไม่ได้มีความโดเด่น ซึ่งในไตรมาส 1/66 สามารถเรียกเก็บหนี้ NPL ได้ 1.97 พันล้านบาท และจะพยายามทำให้ยอดเรียกเก็ยหนี้ NPL ในสไตรมาส 2/66 เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งสูงขึ้นจากไตรมาส 1/66
โดยที่เป้าหมายยอดเรียกเก็บหนี้ NPL และ NPA ในปี 66 ที่ 1.78 หมื่นล้านบาท ยังมั่นใจว่าทำได้ แบ่งเป็นเป้ายอดเรียกเก็บ NPA ที่ 7.3 พันล้านบาท และยอดเรียกเก็บ NPL ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท โดยยอดเรียกเก็บของ NPA จะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนให้ทำได้ตามแผน และในช่วงทีผ่านมาของไตรมาส 2/66 สามารถทำยอดเรียกเก็บหนี้ในอัตรา 90% ของเป้ารายเดือน โดยในไตรมาส 2/66 ตั้งเป้ายอดเก็บหนี้รวมที่ 4.46 พันล้านบาท แบ่งเป็น ยอดเรียกเก็บ NPA 1.78 พันล้านบาท และยอดเรียกเก็บ NPL 2.68 พันล้านบาท
สำหรับการร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ในการร่วมทุน หลังจากดีลการเจรจากับสถาบันการเงินรายหนึ่งก่อนหน้าไปสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ทำให้การเจรจาต้องหยุดไป แต่ปัจจุบันบริษัทได้มีการนำดีลการร่วมทุนกับธนาคารพาณิชย์เข้ามาเริ่มใหม่อีกครั้งกับธนาคารพาณิชย์อีกราย เพื่อร่วมกันผลักดันดีลสำเร็จ โดยจะนำประสบการณ์และนำข้อที่ติดขัดมาปรับปรุงและมาพิจารณาในการเดินหน้าเจรจา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 66)
Tags: BAM, บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์, รฐนนท์ ฟูเกียรติ, หุ้นไทย