BAFS เล็งเพิ่มเป้าปริมาณเติมน้ำมันรับเที่ยวบินจีนพุ่ง ปักธงปี 69 รายได้แตะ 7.5 พันลบ.

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมพิจารณาปรับเพิ่มเป้าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้ จากเดิมคาดไว้ที่ 4,400 ล้านลิตร เนื่องด้วยไตรมาส 1/66 มีปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานสูงถึง 1,069 ล้านลิตร รับอานิสงส์บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น หรือคิดเป็น 6.5 ล้านคนในไตรมาสแรก

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/66 โดยปกติแล้วจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น หรือมีเที่ยวบินน้อยกว่าทุกไตรมาส ทำให้ปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานจะน้อยกว่าไตรมาส 1/66 แต่ตั้งแต่ในเดือนมิ.ย.เป็นต้นไป สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ได้อนุญาตให้สายการบินจากจีน สามารถเพิ่ม SLOT เป็นประมาณ 430 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันที่มีกว่า 100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่งผลให้ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในครึ่งปีหลังนี้ จะมีปัจจัยหนุนมาจากสนามบินสุวรรณภูมิจะมีการเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 แห่งใหม่ (SAT1) คาดจะเปิดให้บริการในเดือนก.ย.นี้ ส่งผลให้ปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานปรับตัวขึ้น

ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ภายใต้บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (BC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย คาดเพิ่มกำลังการผลิตอย่างน้อย 30 เมกะวัตต์ในช่วงครึ่งปีหลังปี 66 จะทำให้รายได้ในปี 67 จะเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาดีล ราว 3-4 ดีล เพื่อขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับงบลงทุนปีนี้วางไว้ที่ 1,500 ล้านบาท ใช้ในพลังงานหมุนเวียนราว 600 ล้านบาท ส่วนอีก 650 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนของบริษัท ขนส่งน้ำมัน ทางท่อ จำกัด (FPT) โดยหลักจะใช้ในการลงทุนเชื่อมท่อส่งน้ำมัน ที่เหลืออีก 250 ล้านบาท จะเป็นอื่นๆ

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตแตะ 7,500 ล้านบาทในปี 69 แบ่งเป็น ธุรกิจการบิน 50% และธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities and Power) 40-43% โดยคาดหวังรายได้จากพลังงานหมุนเวียนจะอยู่ที่ 25% หรือคิดเป็นกว่า 1,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) จำนวน 1,200 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจสุดท้าย บริการธุรกิจ (Business Solution and Service) คาดมีสัดส่วนรายได้ 10-11% หรือประมาณ 750 ล้านบาท ของรายได้รวม

ในปีนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการขอรับรอง Carbon Credit จากการลงทุนท่อขนส่งน้ำมัน ทำให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกลงได้ โดยคาดการณ์เบื้องต้นว่า ระบบท่อขนส่งน้ำมัน จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง 54,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ขณะเดียวกันยังเริ่มติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในพื้นที่ประกอบการ ซึ่งช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้สูงถึง 35% รวมถึงยังมุ่งมั่นให้บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 โดยได้ลงทุนเปลี่ยนรถให้บริการในสนามบินเป็นรถ EV 100% และจะเพิ่มรถ EV อย่างต่อเนื่อง

ส่วนบริษัทย่อย BX Global Invest Pte Ltd. ที่เพิ่งจดจัดตั้งไปในช่วงต้นปี เพื่อลงทุนพลังงานหมุนเวียนนอกประเทศ โดยใช้ประเทศสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางในการระดมทุนในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top