In Focus: ซีอีโอทวิตเตอร์คนใหม่จะพลิกสถานการณ์ได้ตามที่ “อีลอน มัสก์” ต้องการหรือไม่

ทวิตเตอร์จะไปต่อได้หรือไม่ภายใต้การบริหารงานของซีอีโอคนใหม่ “ลินดา ยัคคารีโน” ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของทวิตเตอร์เป็นวันแรกเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากที่ อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัททวิตเตอร์ทาบทามเธอให้มารับตำแหน่ง ด้วยคุณสมบัติที่เตะตาไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและคอนเน็กชันในแวดวงโฆษณา โซเชียลมีเดีย เซเลบริตี้หลากหลายวงการ ท่ามกลางสถานการณ์ที่รายได้จากการโฆษณาของทวิตเตอร์ร่วงลงถึง 59% ในช่วงเดือนเม.ย.-ต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาจากระดับในปีที่แล้ว

อีลอน มัสก์ ต้องการให้ยัคคารีโนเข้ามาปรับปรุงในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทวิตเตอร์กับแบรนด์ธุรกิจต่าง ๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้บริหาร 2 รายซึ่งดูแลเรื่องการตรวจสอบความรุนแรง คำพูดแสดงความเกลียดชัง ภาพอนาจาร และเนื้อหาอื่น ๆ ได้ลาออกไป ซึ่งการปรับเปลี่ยนนโยบายในการดูแลคอนเทนต์ดังกล่าวส่งผลให้แบรนด์และธุรกิจต่าง ๆ ลังเลที่จะโปรโมตสินค้าของบริษัทกับทวิตเตอร์

ส่องประวัติผู้นำหญิงแห่งวงการโฆษณา ฉายา “ค้อนกำมะหยี่”

ก่อนหน้าที่ยัคคารีโนจะมาทำหน้าที่ซีอีโอทวิตเตอร์นั้น ยัคคารีโนเคยรั้งตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายโฆษณาของบริษัทเอ็นบีซียูนิเวอร์แซล ซึ่งเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในสายงานโฆษณาอย่างหาตัวจับยาก

เดอะการ์เดียนตั้งฉายาให้ซีอีโอคนใหม่วัย 60 ปีของทวิตเตอร์ว่าเป็น “ค้อนกำมะหยี่” (Velvet Hammer) เนื่องจากเธอมีทั้งความนุ่มนวลและความดุดันในสไตล์การเจรจาต่อรองทางธุรกิจ

ลินดา ยัคคารีโน เติบโตมาในครอบครัวชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี พ่อของเธอเป็นตำรวจ หน้าที่การงานด้านสื่อของลินดา ยัคคารีโน เริ่มต้นที่การเป็นเด็กฝึกงานที่เอ็นบีซียูนิเวอร์แซล หลังจากนั้นเธอได้เข้าทำงานที่เทอร์เนอร์ บรอดคาสติ้ง ซึ่งปัจจุบันเป็นธุรกิจส่วนหนึ่งของวอร์เนอร์ บราเธอร์ ดิสคัฟเวอรี

ยัคคารีโนสามารถก้าวหน้าในสายงานจนขึ้นมาเป็นผู้บริหารของบริษัทสื่อรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เธอเป็นผู้บริหารหญิงที่ทรงอิทธิพลด้วยความมุ่งมั่นและแน่วแน่ รวมถึงภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เธอมีชื่อเสียงในเรื่องการบริหารงานธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ยักษ์ใหญ่อย่างเอ็นบีซียูนิเวอร์แซลจนทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี ที่เอ็นบีซียูนิเวอร์แซลนั้น เธอดูแลธุรกิจด้านการขายโฆษณาและสามารถเปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งด้านโฆษณาที่มีชื่อว่าพีค็อก (Peacock) เมื่อปี 2563 รวมทั้งผลักดันเรื่องการพูดคุยกันในวงการเกี่ยวกับช่องว่างของข้อมูลในขณะที่ผู้ใช้งานได้เปลี่ยนมาใช้สื่อออนไลน์

ยัคคารีโนมีบุตร 2 คนและพึ่งจะได้เป็นคุณยายเมื่อปีที่แล้ว เป็นที่รู้กันในวงการว่า เธออยากได้รับการโปรโมทหลังจากที่ได้ทำหน้าที่ประธานฝ่ายโฆษณาและพาร์ตเนอร์ชิประดับโลกที่เอ็นบีซียูนิเวอร์แซลมาถึง 10 ปี หลังจากนั้นก็มีการคาดการณ์กันในวงกว้างเกี่ยวกับความสนใจของเธอที่จะเข้ามาทำงานที่ทวิตเตอร์ในช่วงที่เธอออกมาปกป้อง อีลอน มัสก์ ในการประชุมเมื่อปีที่แล้ว โดยขอให้วงการโฆษณาให้เวลาและให้โอกาสกับมัสก์

เหตุใดแบรนด์ดังพากันตีจากทวิตเตอร์

ซีอีโอของมอนเดเลซเคยกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อปีที่แล้วว่า โอรีโอ้ได้ถอนโฆษณาจากทวิตเตอร์ เพราะความเสี่ยงที่โฆษณาจะไปปรากฏต่อจากข้อความที่ผิดพลาดรวมทั้งข้อความที่แสดงถึงความเกลียดชัง

บรรดาบริษัทผู้ลงโฆษณาบนทวิตเตอร์ระดับ Top 50 ได้ใช้งบโฆษณารวมกันแล้วเพียง 83 ล้านดอลลาร์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งลดลงจากระดับ 102 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ขณะที่อินไซเดอร์ อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยได้ปรับลดคาดการณ์รายได้จากโฆษณาทั่วโลกของทวิตเตอร์ในปีนี้ลง 37% เหลือ 2.98 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลง 28% จากรายได้จากการโฆษณาในปีที่แล้วที่ 4.14 พันล้านดอลลาร์

นับตั้งแต่ที่มัสก์ได้ซื้อกิจการทวิตเตอร์ เขาได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเลย์ออฟพนักงานจำนวนมากเพื่อลดค่าใช้จ่าย หรือการเร่งเปิดตัวระบบสมัครสมาชิกเพื่อให้ผู้ใช้งานเสียค่าบริการในการตรวจสอบความถูกต้องของโปรไฟล์ตนเอง ไม่นับรวมถึงทวีตต่าง ๆ นานาที่จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ยียวนของมัสก์ ตลอดจนทวีตที่เกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดและที่เกี่ยวพันกับการเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทโฆษณาและแบรนด์ต่าง ๆ กลุ่มลูกค้าต่างพากันระงับการลงโฆษณาบนทวิตเตอร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า มัสก์ต้องการให้ทวิตเตอร์ดึงเหล่าแบรนด์และผู้ซื้อโฆษณากลับมาด้วยประสบการณ์และคอนเน็กชันของซีอีโอคนใหม่

“ลินดา ยัคคารีโน” จะเข้ามาเป็นซูเปอร์วูแมนของทวิตเตอร์

นาตาลี เชอร์แมน ผู้สื่อข่าวสายธุรกิจของบีบีซีประจำนิวยอร์กตั้งคำถามในบทความของเธอเกี่ยวกับ ลินดา ยัคคารีโน ว่า เธอจะกลายเป็นซูเปอร์วูแมนของทวิตเตอร์หรือไม่

เซอร์มาร์ติน ซอร์เรล ผู้ก่อตั้งบริษัท WPP ยักษ์ใหญ่ด้านการตลาดมองว่า ยัคคารีโนเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับงานในตำแหน่งดังกล่าว โดยอีลอน มัสก์คงจะไม่สามารถหาใครที่มีความเข้าใจในเรื่องการโฆษณาทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัลได้ดีไปกว่าเธออีกแล้ว

ในขณะที่ลู พาสคาลิส ซีอีโอของเอเจแอล แอดไวเซอรีกล่าวถึงการดึงยัคคารีโนมาเป็นผู้บริหารว่า การที่มัสก์จ้างยัคคารีโนนั้นเท่ากับเป็นซื้อ “ความเชื่อใจ” จากบรรดาบริษัทโฆษณาและแบรนด์ทั้งหลาย ส่วนกรุ๊ปเอ็มซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการโฆษณาซึ่งดูแลแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่างโคคา โคล่า และเนสท์เล่ เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทวิตเตอร์นั้นมีความเสี่ยงน้อยลง แต่การที่จะฟื้นฟูธุรกิจของทวิตเตอร์ก็ไม่ใช่งานง่าย

ส่วนผู้บริหารของบริษัทที่ปรึกษาอย่างเมดิสันแอนด์วอลล์มองว่า บรรดากลุ่มผู้ซื้อโฆษณารายใหญ่ ๆ ต้องการทางเลือกในการลงโฆษณาที่นอกเหนือไปจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี และทวิตเตอร์นั้นก็ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เล็กเกินไปที่จะซื้อโฆษณา

อีกคำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือ มัสก์ ผู้ซึ่งลอยแพพนักงานทวิตเตอร์ถึงเกือบ 90% จะยอม “ปล่อย” ให้ยัคคารีโนพลิกฟื้นธุรกิจโฆษณาที่กำลังย่ำแย่ได้มากพอหรือไม่ เพราะมัสก์เองยังคงอยู่ในตำแหน่งประธาน ประธานผู้บริหารด้านเทคโนโลยี และหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ มัสก์จะยอมเปิดโอกาสให้ยัคคารีโนดูแลเรื่องความปลอดภัยของแบรนด์หรือไม่ เพราะฝั่งลูกค้าเองก็ยังคงกังวลในเรื่องความปลอดภัยบนทวิตเตอร์ เพราะลูกค้าอยากจะโฆษณาสินค้าในบรรยากาศที่มี “ความขัดแย้งและความร้อนแรง” น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่

ในขณะที่บรรดาเพื่อนร่วมงานเก่า ๆ ของยัคคารีโนมองว่า เธอจะใช้ประสบการณ์ในวงการทีวีเพื่อปรับปรุงธุรกิจโฆษณาและขยายขอบเขตการใช้วิดีโอทั่วทั้งเว็บ แต่หลายคนเห็นตรงกันว่า หากทวิตเตอร์ให้พื้นที่ในการทำงานแก่ยัคคารีโนมากพอ เธอสามารถดึงความเชี่ยวชาญออกมาเพื่อนำความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาผนวกรวมกับสิ่งที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงโฆษณา เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของทวิตเตอร์

ทั้งนี้ อีลอน มัสก์ ได้ซื้อทวิตเตอร์มาในวงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว และตั้งเป้าว่า จะเป็นผู้ปรับโครงสร้างองค์กรทั้งหมดภายในระยะเวลาที่จำกัด การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมทั้งพฤติกรรมของมัสก์เอง ทำให้ ลินดา ยัคคารีโน จะต้องเจองานหินในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นที่มีต่อทวิตเตอร์หลังจากที่เธอข้ามค่ายมาอยู่ภายใต้แบรนด์นกสีฟ้า แต่ด้วยฉายา “ค้อนกำมะหยี่” นั้น ทำให้เราเชื่อว่า เธอคงจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เราขอเอาใจช่วยและติดตามดูผลงานของเธอต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top