หัวเรือใหญ่ TOA ปล่อยฟรี “วนรัชต์” แก้ปม STARK แต่ไม่ปิดโอกาสซื้อชี้ “อนาคตยังอีกไกล”

นายจตุภัทร ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA) กล่าวว่า กรณีของ บมจ.สตาร์ค คอรปอเรชั่น (STARK) เป็นการลงทุนส่วนตัวของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ พี่ชาย ซึ่งแม้จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ใน TOA แต่ก็มีสัดส่วนเพียง 9% ไม่ถือว่ามีนัยสำคัญต่อบริษัท

ทางกลุ่มตั้งคารวคุณที่ดูแล TOA อยู่คงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือกรณีของ STARK ได้ เพราะครอบครัวไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว และนายวนรัชต์ก็ไม่เคยมาพูดคุยในเรื่องนี้ แม้จะยอมรับว่าเพื่อนฝูงหลายคนที่เข้าไปลงทุนในหุ้นและหุ้นกู้ STARK เมื่อได้รับความเดือดร้อนก็มาพูดให้ฟัง แต่ขณะที่เห็นว่ายังเร็วเกินกว่าที่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ คงต้องรอติดตามการเปิดเผยงบการเงินของ STARK เหมือนกับนักลงทุนทุกคน

“เราอยู่ในฐานะคนนอก แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะช่วยได้ เราเป็น Sitting Duck ทำอะไรไม่ได้ คงได้แต่ดูเฉย ๆ แต่พรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) ที่กำหนดส่งงบฯ STARK คงได้รู้ว่าฝ่ายบริหารเขาจะทำอย่างไร ตอนนี้ยัง Too early” นายจตุภัทร กล่าวเมื่อคืนนี้

นายจตุภัทร กล่าวว่า นายวนรัชต์ ไม่เคยมาเสนอขายธุรกิจ STARK และขณะนี้ถือว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดคุยเรื่องนี้ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยังอีกไกล เพราะธุรกิจสายไฟของ STARK ก็ถือว่าน่าสนใจ ขณะที่ TOA ก็ได้ขยายธุรกิจไปอย่างหลากหลาย แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนการเข้าลงทุนธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มสีและวัสดุก่อสร้าง นอกเหนือจากที่ได้เข้าไปลงทุนแล้วใน 7 กลุ่มธุรกิจ

ขณะที่การดำเนินธุรกิจภายใต้ภายใต้บริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (TOAGH) ธุรกิจหลักกว่า 70% ของรายได้มาจากการผลิตและจำหน่ายสีทาอาคาร ผลิตภัณฑ์เคลือนพื้นผิว ก่อสร้างและเคมีภัณฑ์ ส่วนที่เหลือมาจาก ธุรกิจสีอุตสาหกรรมและยานยนต์, ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์ซิเดส เบนซ์ เอ็มจี และ ซูซูกิ, เคมีภัณฑ์ใช้ในบ้าน, พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ , ร้านดองดอง ดองกี้ ที่เป็นธุรกิจร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น และธุรกิจน้ำตาล

นายจตุภัทร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้ตั้งหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่มีรายได้เติบโตทะลุ 2 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงต้นปีผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด ดังนั้นหลังจากปิดงบไตรมาส 2/66 บริษัทอาจจะมีการทบทวนเป้าหมายรายได้ดังกล่าวให้สอดคล้องกับความเป็นจริง หลังจากไตรมาส 1/66 รายได้สร้างนิวไฮ 5,654 ล้านบาท พร้อมกับแนวโน้มรายได้และกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งปี จากปริมาณความต้องการใช้สีและวัสดุก่อสร้างจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ และต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวลดลง

ขณะที่บริษัทมีแผนลงทุน 800-900 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในเวียดนาม สร้างโรงงานใน จ.นครปฐม รวมถึงปรับปรุงระบบการผลิตมาใช้เป็น Fully Automation มากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top