SCB EIC คาดปีนี้ศก. CLMV โตต่อเนื่อง ได้แรงส่งบริโภค-ท่องเที่ยว

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดเศรษฐกิจของประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 66 โดยประเมินว่า เศรษฐกิจกัมพูชา จะขยายตัว 5.9% สปป.ลาว ขยายตัว 4.0% เมียนมา ขยายตัว 3.0% และเวียดนาม ขยายตัว 5.0% เป็นผลจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องหลังการเปิดประเทศของจีน ทั้งด้านจำนวนนักท่องเที่ยว และค่าใช้จ่ายต่อคน ตลอดจนการบริโภคภายในประเทศที่ปรับดีขึ้นตามตลาดแรงงานและแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง

ทั้งนี้ เศรษฐกิจ CLMV จะขยายตัวค่อยเป็นค่อยไป และยังต่ำกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยช่วงก่อนโควิด-19 ในปีนี้ ส่วนหนึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยฟื้นตัว แต่ยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-19 การส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ค่อนข้างซบเซาตามเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวชะลอลง และปัจจัยกดดันเฉพาะประเทศ

*ปัจจัยกดดันแตกต่าง ส่งผลทิศทางการฟื้นตัวแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน

ประเทศที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูง เช่น กัมพูชา มีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้ ช่วยลดทอนผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวชะลอลงต่อการส่งออกได้ ขณะที่ สปป.ลาว ได้ประโยชน์จากโครงการโลจิสติกส์ต่างๆ อาทิ รถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว และจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าท่าแห้งท่านาแล้ง จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว และการขนส่งภายในภูมิภาค แม้อัตราเงินเฟ้อสูงยังเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจอยู่

สำหรับเศรษฐกิจเวียดนาม มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงมาก เนื่องจากพึ่งพาการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีแนวโน้มซบเซาในปีนี้ อีกทั้งยังเผชิญภาวะการเงินในประเทศตึงตัวขึ้นมาก ส่งผลให้ธุรกิจบางกลุ่ม โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ ระดมทุนได้ยาก ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นและการลงทุนภาคเอกชนไประยะหนึ่ง

*ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง กดดันเศรษฐกิจ CLMV

ในระยะปานกลาง SCB EIC คาดว่า กัมพูชาและเวียดนาม จะสามารถกลับมาขยายตัวใกล้ค่าเฉลี่ยในอดีต เนื่องจากปัจจัยกดดันเศรษฐกิจในปีนี้เป็นปัจจัยชั่วคราว และคาดว่าจะทยอยคลี่คลายได้

ส่วน สปป.ลาว และเมียนมา มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตไปอีกระยะ ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้างโดย สปป.ลาวมีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพภาคต่างประเทศ และภาคการคลัง จากระดับทุนสำรองระหว่างประเทศที่ไม่สูงนักในภาวะเงินกีบอ่อนค่าเร็ว และหนี้สาธารณะสูง ส่งผลให้ภาครัฐต้องใช้นโยบายการเงินและนโยบายการคลังตึงตัวมากขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน และอาจพิจารณาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ

สำหรับเมียนมา ความไม่สงบทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลาย ยังเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจ ส่งผลให้ฟื้นความเชี่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคได้ยาก ขณะที่ชาติตะวันตกขยายมาตรการคว่ำบาตรให้ครอบคลุมบุคคลและนิติบุคคลเพิ่มเติม ส่งผลให้สภาพแวดล้อมการทำธุรกิจในเมียนมาไม่เอื้อต่อการลงทุน และกดดันให้เศรษฐกิจเมียนมาขยายตัวต่ำในระยะปานกลาง

*ทิศทางนโยบายการเงินขึ้นกับบริบทเศรษฐกิจรายประเทศ แม้เงินเฟ้อชะลอ

อัตราเงินเฟ้อทยอยชะลอตัวในทุกประเทศ ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่ลดลง แต่ทิศทางนโยบายการเงินจะคำนึงถึงบริบทเศรษฐกิจการเงินในประเทศนั้นๆ เช่น เวียดนาม ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและออกมาตรการสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดการเงิน เพื่อบรรเทาอุปสรรคการระดมทุนของภาคธุรกิจที่ตึงตัวขึ้นมาก

SCB EIC คาดว่า นโยบายการเงินเวียดนามจะผ่อนคลายต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มซบเซาในปีนี้ และภาคอสังหาฯ ยังคงอ่อนแอ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะก่อนจะทยอยฟื้นตัวได้

ขณะที่นโยบายการเงินสปป.ลาว มีแนวโน้มตึงตัวต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังสูง แม้จะเริ่มชะลอลงบ้าง ซึ่งเป็นผลจากเงินกีบอ่อนค่า ทำให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้นมาก ธนาคารกลางสปป.ลาว จึงต้องเน้นดูแลเสถียรภาพด้านราคาในปีนี้

*แนวโน้มการค้า และ FDI ระหว่างไทย-CLMV ปีนี้ยังซบเซา

ในปีนี้แนวโน้มการค้า และการลงทุนจากต่างประเทศ ระหว่างไทยกับ CLMV ยังซบเซา สอดคล้องกับการชะลอตัวของการค้าภายในภูมิภาคและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่ลดลง อย่างไรก็ดี คาดว่าการส่งออกไทยไป CLMV จะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจ CLMV จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น และฐานส่งออกปีก่อนต่ำกว่าช่วงครึ่งแรกของปี

สำหรับการลงทุนโดยตรงจากไทยไป CLMV ยังคงมีแนวโน้มซบเซาจากหลายปัจจัย อาทิ ต้นทุนการระดมทุนในประเทศสูงขึ้น เศรษฐกิจ CLMV ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และสภาพแวดล้อมการทำธุรกิจในบางประเทศไม่เอื้อต่อการลงทุนและขยายกิจการ

ในระยะต่อไป SCB EIC ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ CLMV โดยมองว่า ยังเป็นตลาดสำคัญของธุรกิจไทย เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านจำนวนแรงงานและค่าแรง ตลาดในประเทศเติบโตต่อเนื่อง การเข้าร่วมสนธิสัญญาการค้าเสรีต่างๆ และทำเลที่ตั้งซึ่งสามารถเชื่อมไทยไปยังตลาดสำคัญในภูมิภาคได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top