มอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า มีการลงทุนในจีนมากจนเกินไป ในขณะที่เศรษฐกิจจีนเผชิญปัญหาอย่างต่อเนื่อง แต่อินเดียยังคงมีโอกาสสำหรับการลงทุน
“มีการลงทุนในจีนมากเกินไป โดยมีการลงทุนผ่านการกู้ยืมเงินมากเกินไปและมีอุปทานมากจนเกินไป นอกจากนั้นยังมีปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์อีกด้วย” นางจิทาเนีย คานทารี รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศด้านการแก้ปัญหาและสินทรัพย์ผสมและกรรมการผู้จัดการของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุ
กรณีดังกล่าวแตกต่างจากอินเดีย ซึ่งนางคานทารีระบุว่า มีการลงทุนน้อยจนเกินไป
“การลงทุนในอินเดียต่ำเกินไปเพราะสัดส่วนการลงทุนต่อ GDP ลดลง แต่ขณะนี้การลงทุนและการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตไปที่อินเดียเพื่อลดการพึ่งพาจีน” นางคานทารีให้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box Asia” ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นบีซี
รายงานระบุว่า บริษัทต่าง ๆ ได้เปลี่ยนมาใช้นโยบาย “จีนบวกหนึ่ง” (China-plus-one) เมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากต้องการสร้างความหลากหลายด้านห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเพิ่มความคล่องตัว
นอกจากนี้ นางคานทารีระบุด้วยว่า อินเดียมีอุปทานบ้านและอสังหาริมทรัพย์ต่ำจนเกินไป ขณะที่จีนมีอุปทานส่วนเกินมากจนเกินไป
เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ระบุว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเผชิญปัญหาหนี้ท่วมและยอดขายที่อ่อนแอ โดยยอดขายบ้านใหม่ในกลุ่มนักพัฒนาชั้นนำ 100 อันดับแรกของจีนลดลงประมาณ 1 ใน 3 ในเดือนมิ.ย.และก.ค.จากปีก่อนหน้า หลังเติบโตในอัตราเลขหลักสิบในช่วงต้นปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 66)
Tags: การลงทุน, จีน, มอร์แกนสแตนลีย์, อินเดีย, เศรษฐกิจจีน