โตชิบาเปิดเผยในวันนี้ (21 ก.ย.) ว่า กลุ่มบริษัทร่วมทุนที่นำโดยเจแปน อินดัสเทรียล พาร์ทเนอร์ส หรือเจไอพี (JIP) ได้ซื้อหุ้นของโตชิบา 78.65% ผ่านการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ ซึ่งทำให้บริษัทเข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในการทำให้โตชิบาเป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การถือครองหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ก็มากเพียงพอที่จะทำให้เจไอพีมีสิทธิ์กดดันให้ผู้ถือหุ้นที่เหลือขายหุ้นได้ โดยหุ้นของโตชิบาจะถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์โดยเร็วที่สุดในเดือนธ.ค.นี้ นับเป็นการยุติประวัติศาสตร์ 74 ปี ในฐานะบริษัทจดทะเบียน
ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ชาวญี่ปุ่นกลายเป็นเจ้าของโตชิบาอีกครั้ง หลังจากที่โตชิบาเผชิญข้อพิพาทกับบรรดาผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติที่มีบทบาทต่อการดำเนินงานของบริษัทมาเป็นเวลาหลายปี
รายงานระบุว่า เจไอพีเป็นบริษัทด้านลงทุนในหุ้นนอกตลาด และผู้นำกลุ่มบริษัทร่วมทุนที่มีการรวมตัวกันของบริษัทญี่ปุ่นประมาณ 20 แห่งด้วยกัน รวมถึง โอริกซ์ (Orix) บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน และโรห์ม (Rohm) บริษัทผู้ผลิตชิป
เมื่อเดือนมี.ค. โตชิบายอมรับข้อเสนอซื้อกิจการจากเจไอพี ซึ่งประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ 2 ล้านล้านเยน (1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งในขณะนั้นไม่มีโอกาสได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า หรือข้อเสนอที่แข่งขันได้ แม้ว่าบางส่วนจะมองว่าราคาเสนอหุ้นละ 4,620 เยน จะยังไม่น่าพึงพอใจก็ตาม
“เรารู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อผู้ถือหุ้นหลาย ๆ ท่านที่เข้าใจจุดยืนของบริษัท” นายทาโร ชิมาดะ ซีอีโอของโตชิบา ระบุแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันนี้ พร้อมเสริมว่า โตชิบาจะก้าวไปสู่อนาคตใหม่ พร้อม ๆ กับผู้ถือหุ้นรายใหม่
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2558 โตชิบาเผชิญกับปัญหาหลายประการ ทั้งเรื่องอื้อฉาวทางบัญชี การขาดทุนอย่างหนักจนเกือบจะถูกถอดจากตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการกำกับดูแลของบริษัทอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 66)
Tags: JIP, เทคโอเวอร์, โตชิบา