ไทย-บรูไน กระชับความสัมพันธ์-เสริมสร้างความร่วมมือทุกมิติหนุนเศรษฐกิจอาเซียน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเข้าเฝ้าฯ และหารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ณ พระราชวังอิสตานา นุรุล อิมาน

สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ทรงกล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมแสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี

การเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันของไทยและบรูไน โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในระดับราชวงศ์ที่เป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์ไทย-บรูไน โดยปีหน้าจะครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์การทูต ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นควรให้ใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ และร่วมมือระหว่างกัน

ในด้านเศรษฐกิจ ผู้นำทั้งสองหวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านนี้มากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่าในปี พ.ศ.2545 Brunei Investment Agency (BIA) ได้ร่วมมือกับ EXIM Thailand และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งกองทุนทวีทุน (Thailand Prosperity Fund) ซึ่งมีทุนเริ่มแรก 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมเชิญชวนให้ BIA พิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในไทย โดยเฉพาะในสาขาที่มีศักยภาพสูง เช่น การบริการ การท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

นายกรัฐมนตรียินดีที่สินค้าไทยได้รับความนิยมมากขึ้นในบรูไน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ มีแผนจัดแสดงสินค้าไทยในบรูไนมากขึ้น จึงหวังที่จะทำงานร่วมกับบรูไน เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าไทยและอาหารไปยังบรูไนมากขึ้น

ผู้นำทั้งสองให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหาร โดยไทยต้องการที่จะเป็นหุ้นส่วนระยะยาวของบรูไนในด้านนี้ เนื่องจากไทยมีความเข้มแข็งในด้านการเกษตร และการผลิตอาหาร และต้องการขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทย โดยเฉพาะเนื้อไก่ และข้าวหอมมะลิไทย ไปยังบรูไน โดยทั้งสองประเทศยังพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือในด้านพลังงาน

ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องว่า อาเซียนที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองเป็นสิ่งสำคัญ โดยอาเซียนเป็นเสาหลักสำคัญของนโยบายต่างประเทศของรัฐบาล และพร้อมจะสานต่อการทำงานร่วมกับบรูไน เพื่อเสริมสร้างอาเซียน พร้อมหวังจะได้เห็นการบรูณาการทางเศรษฐกิจในอาเซียนที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงความห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นขณะนี้ พร้อมขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว พร้อมย้ำความมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดเดินหน้าความร่วมมือระหว่างกันให้เกิดผลสูงสุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top