ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2523
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 63 จุด หรือ -0.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ และดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์ ปรับตัวลงเช่นกัน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.001% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 2523
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการประชุมที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) เมื่อคืนวานนี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัวของสหรัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก พร้อมกับกล่าวว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับสูงเกินไป และเฟดจะยังคงมุ่งมั่นต่อพันธกรณีในการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง และบริษัทต่าง ๆ จะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านั้นลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 66)
Tags: dow jones futures, ดาวโจนส์ฟิวเจอร์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก