SE แนวโน้ม Q4/66 เข้าไฮซีซั่นลุ้นชิงงานใหม่กว่า 1,254 ลบ.แจง Q3/66 กำไรหดตามการรับรู้ธุรกิจร่วมทุน

นายเกริก ลีเกษม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามอีสต์ โซลูชั่น (SE) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/66 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้มีปริมาณคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 249.22 ล้านบาท อีกทั้งมีโอกาสรับงานใหม่เพิ่มซึ่งอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานภาครัฐ-เอกชน มูลค่ารวมกว่า 1,254 ล้านบาท ตั้งเป้าประมูลงานได้ไม่ต่ำกว่า 25%

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่และพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ และผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดความยั่งยืน อาทิ การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ การบำบัดน้ำเสียให้นำกลับมาใช้ใหม่ ถือเป็นการขยายขอบเขตการให้บริการ และเป็นโอกาสในการต่อยอดบริการให้ฐานลูกค้า ผลักดันรายได้โตตามเป้าหมาย 10-15%

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/66 บริษัทมีรายได้รวม 182.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 168.38 ล้านบาท จำนวน 14.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.55% และมีกำไรสุทธิ 18.07 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.40 ล้านบาท จำนวน 1.33 ล้านบาท หรือลดลง 6.86%

ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือน 66 บริษัทมีรายได้รวม 473 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 439.76 ล้านบาท จำนวน 33.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.56% และมีกำไรสุทธิ 44.98 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46.93 ล้านบาท จำนวน 1.65 ล้านบาท หรือลดลง 3.52%

ผลประกอบการด้านรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัททยอยส่งสินค้าซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ , กลุ่มธุรกิจงานบริการ อีกทั้งรับรู้รายได้จากการจำหน่ายและติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น

ในส่วนกำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย เนื่องจากรับรู้ผลกำไรจาก บมจ.ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ (UBA) จำนวน 5.95 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่รับรู้จำนวน 7.99 ล้านบาท เนื่องจากในปี 65 บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม(UBA) ในอัตรา 39.99% แต่ในปี 66 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (UBA) ในอัตรา 28.67% ซึ่งเหตุผลดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top