SNP ปรับกลยุทธ์หันรุกหนักเปิดสาขาใน รพ.เพิ่มดันมาร์จิ้น ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โตทะลุ 10%

นายกำธร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและการผลิต บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (SNP) กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน (YoY) และยอดขายทั้งปี 66 คาดว่าเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 11% YoY โดยบริษัทมุ่งเน้นการเติบโตของยอดขายทางร้านอาหาร ร้านค้า Bakery และธุรกิจค้าปลีกรับจ้างผลิต

โดยในไตรมาส 3/66 มียอดขายเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มและทุกช่องทางสาขาของบริษัท โดยรายได้รวมอยู่ที่ 1,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY โดยมาจากการเติบโตของยอดขายจากช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเป็นหลัก ซึ่งเติบโต 32% YoY ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 165 ล้านบาท เติบโตสูงที่สุดในรอบ 8 ปี โดยเพิ่มขึ้น 5% YoY ซึ่งอัตรากำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นจากการผลิตแบบ Lean และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ยอดขายจากสาขาในโรงพยาบาลมีการเติบโตค่อนข้างสูง ซึ่งมีส่วนในการทำกำไรได้เป็นอันดับต้น ๆ ของบริษัท รายได้เฉลี่ยต่อสาขามากกว่าสาขาอื่น เฉลี่ยประมาณ 2 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีสาขาในโรงพยาบาล 61 สาขา และปี 67 บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 สาขา ความท้าทายในการดำเนินงานคือการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในโรงพยาบาลรัฐจะมีการประมูลมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขาย (Selling Expenses) ในไตรมาส 3/66 เพิ่มขึ้น 1%YoY มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าที่กลับสู่ราคาเช่าปกติตามสัญญา โดย 9 เดือนในปี 66 เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนในปี 65 หลังจากมีการปรับลดค่าเช่าไปเมื่อช่วงโควิด-19 ซึ่งต้องกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าสาธารณูปโภค ซึ่งหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการในการควบคุมราคาสาธารณูปโภค อาทิ ค่าน้ำและค่าไฟ

แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะยังรักษาให้อยู่ระดับใกล้เคียงหรือดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/66 ซึ่งอยู่ที่ 56.4% อย่างไรก็ตามราคาวัตถุดิบยังทรงตัว แต่อาจจะมีบางวัตถุดิบ อาทิ น้ำตาลที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ในตลาดโลก ขณะที่วัตถุดิบอื่น ๆ บริษัทสามารถควบคุมได้โดยการหาซัพพลายเออร์เข้ามาเพิ่มเพื่อควบคุมต้นทุน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top