เงินบาทเปิด 35.18 ให้กรอบวันนี้ 35.05-35.30 ตลาดรอดูตัวเลข GDP จากสภาพัฒน์เช้านี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ อยู่ที่ 35.18 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัว อ่อนค่าจากปิดตลาดท้ายสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 35.12 บาท/ดอลลาร์

โดยตลาดรอประเมินความชัดเจนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังประเมินแล้วว่าเฟดจะ ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ส่วนปัจจัยในประเทศ รอดูตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาส 3/66 ที่สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะประกาศออกมา โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“บาทอ่อนค่าจากสุดสัปดาห์ก่อน วันนี้รอดูตัวเลขจีดีพีจากสภาพัฒน์ ทิศทางบาทน่าจะผันผวนไปตามปัจจัยที่เข้ามาใหม่” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.05 – 35.30 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 149.90 เยน/ดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 149.57 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0898 ดอลลาร์/ยูโร จากสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 1.0856 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.205 บาท/ ดอลลาร์

– หอการค้าไทย ชงสมุดปกขาวให้นายกฯ เศรษฐา เร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ยปีละ 5% วอนแก้หนี้เอสเอ็มอี ด่วน ยกระดับ 10 เมืองรองเป็นเมืองหลักลดเหลื่อมล้ำ

– นักเศรษฐศาสตร์ชี้ การแจกเงินดิจิทัลกว่า 5 แสนล้าน ผ่านพ.ร.บ.เป็นสิ่งที่ดี โปร่งใส แต่อาจข้ด กฎหมาย “พิพัฒน์” ชี้ เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ต้องทำควบคู่มาตรการระยะยาว หวังดันจีดีพี โต ยั่งยืน “อมรเทพ” หวั่นภาครัฐออกบอนด์ดันต้นทุนเอกชนพุ่ง อดีต รมช.คลังชี้ กู้มาแจกถือว่าขัดมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการ คลัง

– รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการพักหนี้ให้กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ซึ่งต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ เนื่องจากมูลค่าหนี้ของเอสเอ็มอีเป็นมูลค่าที่ค่อนข้างสูง ซึ่งหนี้ของ เอสเอ็มอีเฉลี่ยต่อรายไม่ใช่แค่หลักแสนบาท ถือเป็นภาระที่หนัก โดยโจทย์ของการช่วยเหลือเรื่องหนี้เอสเอ็มอี ต้องเป็นเอสเอ็มอี ตามรหัส 21 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งคำอธิบายของกลุ่มนี้มีแค่เอสเอ็มอีที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) แล้ว ซึ่งรัฐบาลให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน

– นายกฯ เตรียมประกาศ “มาตรการแก้หนี้ทั้งระบบ” ปลาย พ.ย.นี้ เล็งดึงนายอำเภอ-ตำรวจพื้นที่ช่วยเจรจาไกล่ เกลี่ยลูกหนี้-เจ้าหนี้ใครเก็บเกิน กม.กำหนดต้องยกเลิก

– นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหรือชัตดาวน์ หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำ สหรัฐได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว ส่งผลให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล

– สัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค., ดัชนีความ เชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

– นักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ในช่วงเช้าวันนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top