มาสเตอร์การ์ด ตั้ง “โจนาธาน วูด” นั่งผู้จัดการประจำประเทศไทย-เมียนมาคนใหม่

มาสเตอร์การ์ดประกาศแต่งตั้ง นายโจนาธาน วูด (Jonathan Wood) ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมา นายโจนาธาน จะประจำการอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลการดำเนินงานของมาสเตอร์การ์ดทั้งหมดในประเทศไทยและเมียนมา รวมถึงเป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจและการใช้โซลูชันการชำระเงินที่มีความปลอดภัย ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมสำหรับผู้ใช้ในภาคธุรกิจและผู้ใช้งานรายย่อย

สำหรับในประเทศไทย มาสเตอร์การ์ดได้ดำเนินงานสอดคล้องกับแผนทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2566 โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน การส่งเสริมนวัตกรรม และส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยนายโจนาธานจะทำหน้าที่แสวงหาความร่วมมือ และผลักดันการเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาครัฐ สนับสนุนวาระการดำเนินงานด้านดิจิทัลของรัฐบาล ตลอดจนขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสด

นายโจนาธาน คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศกว่า 25 ปี รวมถึงมีประสบการณ์การทำงานกับมาสเตอร์การ์ดเป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะย้ายมาประจำการที่ประเทศไทย เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัท Transactis ในเมืองนิวยอร์ก ซึ่ง Transactis เป็นแพลตฟอร์มจัดการใบเรียกเก็บเงินและการชำระเงินชั้นนำของอุตสาหกรรมที่มาสเตอร์การ์ดเข้าซื้อกิจการในปี 2562 โดยนายโจนาธาน รับหน้าที่เป็นผู้นำธุรกิจตั้งแต่ช่วงแรกเริ่ม จนเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบัน เกือบครึ่งของธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เป็นลูกค้าของธุรกิจส่วนนี้ที่เขาดูแลอยู่ ก่อนหน้านี้ นายโจนาธานยังเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายธุรกิจการค้าอีกหลายตำแหน่งในส่วนของการชำระเงินดิจิทัลและเรียลไทม์ในสหราชอาณาจักร

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับมาสเตอร์การ์ด นายโจนาธานเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในทวีปยุโรป ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน แอฟริกาใต้ และรัสเซีย ซึ่งเขาได้สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและนวัตกรรมในภูมิภาคเหล่านี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีการชำระเงินดิจิทัลของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ด New Payments Index ปี 2565 พบว่า 80% ของผู้ใช้งานมีการใช้งานวิธีการชำระเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอย่างน้อย 1 รูปแบบ โดยบริการดิจิทัล เช่น พร้อมเพย์ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของการชำระเงินแบบเรียลไทม์ของประเทศไทย ได้เข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้งานรายย่อยและภาคธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้คนหันมาปรับตัวเข้าสู่ระบบนิเวศดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กและผู้ให้บริการผ่านระบบเคลื่อนที่ด้วย

นายซาฟดาร์ คาน ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ประสบการณ์การทำงานในระดับนานาชาติอันกว้างขวางนายโจนาธาน ในเรื่องการชำระเงินดิจิทัล จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจของมาสเตอร์การ์ดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเข้ามารับตำแหน่งในประเทศไทยของนายโจนาธานตรงกับช่วงเวลาสำคัญที่มีนวัตกรรมดิจิทัลเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การชำระเงินของประเทศ ซึ่งจะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมไร้เงินสด และตอกย้ำการเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนายโจนาธาน จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งภาครัฐและเอกชนภายในประเทศเพื่อช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต่อไปในภายภาคหน้า”

นายโจนาธาน วูด ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาของมาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมา ผมพร้อมที่จะร่วมงานกับทีมมาสเตอร์การ์ด ผู้ใช้งาน ลูกค้า และพันธมิตรของมาสเตอร์การ์ดทั้งหมด เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของการชำระเงิน ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมความเท่าเทียมทางดิจิทัล ผมมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนวาระการดำเนินงานของรัฐบาลไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และปลอดภัย และส่วนตัวผมเอง ก็ยินดีที่จะเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นและเรียนรู้วัฒนธรรมอันสวยงามของประเทศไทย”

ทั้งนี้ นายโจนาธานขึ้นมารับตำแหน่งต่อจากไอลีน โกะ (Aileen Goh) ซึ่งเป็นผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาคนก่อน ปัจจุบันได้ย้ายไปรับตำแหน่งประธานอำนวยการของ P.T. Mastercard ประเทศอินโดนีเซีย โดยเธอจะดูแลการดำเนินงานของมาสเตอร์การ์ดในประเทศอินโดนีเซีย และนำทีมในการขับเคลื่อนความมุ่งมั่นของบริษัทเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินดิจิทัลของอินโดนีเซีย ในระหว่างดำรงตำแหน่งดังกล่าว คุณไอลีน มีบทบาทสำคัญในการขยายวงเงินเดบิต และเร่งส่งเสริมการใช้งานระบบ QR และการชำระเงินแบบไร้สัมผัสให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้เธอยังเข้ามาช่วยดูแลวาระการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในอุตสาหกรรมการชำระเงิน เพื่อสร้างความมั่นใจในการชำระเงินอย่างปลอดภัยและราบรื่นให้กับผู้ใช้งานรายย่อยและภาคธุรกิจทั้งในไทยและอินโดนีเซีย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top