เงินบาทเปิด 35.10/13 อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค ตลาดรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.10/13 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานนี้ที่ระดับ 34.94 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทอ่อนค่าจากท้ายตลาดตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลเงินอื่นในภูมิภาค ที่เช้านี้ส่วนใหญ่อ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ โดย วันนี้ อาจยังต้องติดตามกรณีที่เมื่อวานนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันที่จะดำเนินนโยบายการเงินตามหลักของ ธปท. ซึ่งตลาด รับข่าวที่ธปท. ไม่ได้ออกมาตอบโต้ภายนอกเท่าไรนักในประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยสูง ท่ามกลางเงินเฟ้อต่ำ

“ดังนั้น ต้องติดตามว่า ธปท. จะให้ความชัดเจนเพิ่มเติมกับตลาดหรือไม่ ในแง่มุมของการกำหนดนโยบายการเงินภาย ในประเทศ” นักบริหารเงิน ระบุ

ส่วนประเด็นจากต่างประเทศ ต้องติดตามการออกมาให้ความเห็นของ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเรื่อง นโยบายการเงินในช่วงต้นปีจะเป็นอย่างไร รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลแดงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการสู้รบกันสั้นๆ

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม คือ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index)เดือน ม.ค. จากเฟดนิวยอร์ก

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90 – 35.20 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 145.91/95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 145.61 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0916/0921 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0944 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.854 บาท/ดอลลาร์

– ธปท.เปิดเวทีแจง แนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน ชี้ดอกเบี้ยปัจจุบันเหมาะสม สมดุล และจุดจบของดอกเบี้ยที่ 2.50% เป็นจุดที่พอดี ยันนโยบายการเงิน “ไม่ได้มาผิดทาง” ย้ำแบงก์ชาติไม่ใช่กองหน้า แต่เป็นกองหลังคุมเสถียรภาพ

– “รัฐบาล” รุกแลนด์บริดจ์ เต็มตัว “เศรษฐา” พบผู้บริหาร “ดูไบ พอร์ต เวิลด์” ระหว่างการเยือนดาวอส ประชุม WEF ชี้ เคยเข้าพบ สนข.ข้อมูลปลายปี 66 เป็นยักษ์ใหญ่บริหารท่าเรือและกิจการน้ำมันดึง “ที่ปรึกษานายกฯ” ระบุจุดขายเชี่ยวชาญโรงกลั่น ท่อ ส่งน้ำมัน เคยศึกษาตั้งโรงกลั่นในไทย 5-9 แสนบาร์เรลต่อวัน รองรับธุรกิจการกลั่น และปิโตรเคมี มั่นใจแข่งสิงคโปร์ได้

– ส.อ.ท.เตรียมชงรัฐดูแลค่าไฟฟ้าระยะเร่งด่วนปี 67 วางเป้าหมายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกิน 3.60 บาท/หน่วย ด้าน ‘พีระ พันธุ์’ เร่งประชาพิจารณ์ไฟฟ้าสีเขียว ลั่นสรุปข้อมูลภายใน ก.พ. นี้ กำหนดค่าไฟระยะแรก 4.56 บาท

– ตลาดเงิน ตลาดทองคำ นิวยอร์ก ปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

– กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า จีนจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้าง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจของ ประเทศชะลอตัวลงอย่างรุนแรง พร้อมกับเตือนว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความท้าทาย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า GDP จีนปีนี้ จะชะลอตัวลงเหลือ 4.6% เนื่องจากวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

– นักลงทุนในตลาดการเงิน กำลังจับตาการเจรจาค่าจ้างรายปีของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นธนาคารกลางรายสุดท้าย ที่ยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ก่อนที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550

– อดีตผู้อำนวยการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดการณ์ว่า ผลการเจรจาค่าจ้างประจำปี หรือที่เรียกว่า “ชุน โต (Shunto)” ระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพแรงงานญี่ปุ่น จะนำไปสู่การปรับขึ้นค่าจ้างราว 4% ซึ่งจะปูทางให้ BOJ ยุติการใช้นโยบาย อัตราดอกเบี้ยติดลบภายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ (มี.ค.-พ.ค.)

– เมื่อคืนนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 49,000 ดอลลาร์ในช่วงแรก หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ให้การอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF เมื่อวันที่ 10 ม.ค. แต่หลังจากนั้น บิตคอยน์ก็ร่วงลงอย่างต่อ เนื่อง ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายหลังรับรู้ข่าว หรือ Sell on Fact เกี่ยวกับการที่ SEC ให้การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF

– กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยืนยันว่า “คริปโทเคอร์เรนซี” ไม่ใช่เงิน และแม้บิตคอยน์ได้พุ่งขึ้น ขานรับการ เปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF แต่คริปโทฯ ก็ยังอยู่ห่างไกลจากการขึ้นมาเป็นคู่แข่งของดอลลาร์

– ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้าน แห่งชาติ (NAHB) , จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และ ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top