โฆษกของเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นเชนห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) ว่า เมซีส์ได้สั่งปลดพนักงานจำนวน 2,350 ตำแหน่งและปิดห้างสรรพสินค้าไป 5 สาขา เนื่องจากวางแผนจะปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน
รายงานระบุว่า การปลดพนักงานครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วน 3.5% ของพนักงานทั้งหมดของเมซีส์ โดยเมซีส์มีห้างสรรพสินค้าอยู่ 722 สาขา ณ เดือนม.ค. 2566 ขณะที่ มีพนักงานประจำและพนักงานพาร์ตไทม์ทั้งหมด 94,570 ราย ซึ่งไม่นับรวมตัวเลขพนักงานที่ว่าจ้างชั่วคราวในฤดูการจ้างงาน
นายโทนี สปริง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมซีส์กำลังมุ่งเป้าไปยังการลดค่าใช้จ่ายด้านการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นผลกำไร ขณะที่ เมซีส์เริ่มฟื้นตัวหลังเผชิญปัญหาสต็อกสินค้าล้นคลังในปี 2565
โฆษกของเมซีส์ระบุว่า การปลดพนักงานครั้งล่าสุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใช้กลยุทยธ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภคและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
ในเดือนม.ค. ปี 2560 เมซีส์ประกาศปิดสาขาจำนวน 68 สาขาในสหรัฐ จากทั้งหมด 100 สาขา พร้อมประกาศลดพนักงานจำนวน 6,200 คน โดยคาดหวังว่ามาตรการปรับโครงสร้างจะทำให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายราว 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี ซึ่งบริษัทจะนำเงินจำนวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปลงทุนในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ
ส่วนเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2566 เมซีส์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 21 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0 เซนต์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 4.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อนึ่ง เมซีส์เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอการเทคโอเวอร์กิจการจากบริษัทอาร์คเฮาส์ แมเนจเมนท์ และบริดจ์ แคปิตอล แมเนจเมนท์ โดยระบุว่าข้อเสนอเหล่านั้นมีมูลค่าต่ำเกินจริง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 67)
Tags: ปลดพนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, เมซีส์ อิงค์