นายกฯ ตอบกระทู้สดยันเร่งแก้ปัญหาท่องเที่ยว เตรียมแถลงแผนยกระดับสนามบินต้นมี.ค.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตอบกระทู้ถามสดในเรื่องปัญหาการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวว่า รัฐบาลมีแผนที่จะยกระดับสนามบินทั่วประเทศ รวมถึงเมืองรอง ที่จะต้องไปดูให้เกิดความเหมาะสมว่าจะสามารถเป็นสนามบินนานาชาติได้หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยจะมีการแถลงข่าวใหญ่ในต้นเดือนหน้า

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ลงทุนไปมากในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน และ และมี Long Term benefits ที่ชัดเจนที่สุดเพราะประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีมาก ไม่ใช่แค่ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯเท่านั้น ซึ่งยังมีเมืองรองที่เป็นเมืองสำคัญที่จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวกระจายตัวไปยังเมืองรองเพื่อกระจายรายได้ ซึ่งเรื่องนี้มีการขับเคลื่อนผ่าน Soft Power ในการที่จะจัดเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่ฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงธันวาคม มกราคมเพียงเท่านั้น

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดใหญ่เพียงอย่างเดียว เพราะตนก็ได้เดินทางไปทั่วประเทศไทยเข้าใจถึง วัฒนธรรม และสิ่งดีๆที่เมืองรองสามารถนำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวได้ โดยปลายเดือนนี้ก็จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้ เพื่อดูเรื่องของวัฒนธรรม อาหารการกิน ว่า มีอะไรบ้างที่รัฐบาลสามารถสนับสนุนสร้างโอกาส พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ แต่ทั้งหมดยังเป็นยังมีการบ้านที่ต้องทำต่อเพื่อปรับปรุงให้ดีที่สุด

*เดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด ผ่านสภาฯ แก้ PM 2.5

สำหรับการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ดี ด้วยการไถกลบ หรือให้องค์ความรู้กับเกษตรกร และรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ โดยมอบให้นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นประธานกรรมาธิการ ผลักดันพ.ร.บ.อากาศสะอาด รวมกับร่างของภาคประชาชนและพรรคการเมืองอีก 6 ฉบับ ได้ส่งเข้าสู่สภาฯ แล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าว่า มีตัวเลขที่บ่งชี้ว่า จุดความร้อน (Hotspot) ในประเทศ ในช่วงเดียวกันมีการลดลงอย่างมีนัยยะ แต่อาจมีเพื่อนบ้านที่อาจยังเข้าใจน้อย หรือไม่มีปัจจัยตรวจสอบเยอะเท่าไทย จึงยังมีความเข้าใจผิดในการจำกัดวัชพืช ซึ่งตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้มีการเจรจาทวิภาคี และได้นำเรื่องนี้มาหารือกันและทั้งสองประเทศจะมีการร่วมมือในการแก้ปัญหา

*รับปัญหายาเสพติด การบ้านรัฐบาล

สำหรับปัญหายาเสพติด ยอมรับว่า เป็นปัญหาหลักนอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่จากช่วงปลายปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อย ได้มากขึ้น 40% จำนวน 32,000 เคส จับกุมยาบ้าจับกุมได้มากกว่าปีก่อน 2 เท่า จำนวน 250 ล้านเม็ด โดยเน้นจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ที่ขายยาบ้า 5 แสนเม็ดขึ้นไป จับได้กว่า 62 เคส ยึดทรัพย์ไปแล้ว 2,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามแม้จะสามารถจับกุมได้มากขึ้น แต่ยังไม่สบายใจ และถือเป็นการบ้านของรัฐบาล ซึ่งต้องยอมรับรากเหง้าของปัญหายาเสพติดมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ที่ประชาชนยังมีรายจ่ายสูง รายได้น้อย อาจทำให้เกิดความหมดหวัง ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ

อีกทั้งส่วนหนึ่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมา ที่ทะลักมาตามชายแดน แต่ทางกองทัพภาคที่ 3 ได้ร่วมมือกับสส.ในพื้นที่ที่ได้สกัดจับยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก และปัจจุบันสามารถสกัดจับยาเสพติดทางภาคเหนือได้ดีแล้ว แต่กลับไปพบที่ทางภาคกลาง ที่ด่านกาญจนบุรี ก็ต้องแก้ปัญหาต่อไป รวมถึงการบำบัดคืนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย เพื่อให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ มีอาชีพที่ดี ซึ่งรัฐบาลจะทำต่อเนื่องต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.พ. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top