สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โฆษณารับสมัครพนักงานแคชเชียร์อายุระหว่าง 18-30 ปี ของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในจีน ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับปัญหา “การว่างงานวัยกลางคน”
เนื่องจากจะมีบัณฑิตหลายสิบล้านคนที่จบการศึกษาเตรียมตบเท้าเข้าสู่ตลาดแรงงานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จีน ซึ่งมีประชากรราว 1.4 พันล้านคนกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากปัญหาประชากรหนุ่มสาวที่ว่างงานจำนวนมาก ขณะที่ผู้คนที่อายุมากกว่า 30 ปี ขึ้นไปก็เผชิญกับแรงกดดันในการหางานใหม่อย่างต่อเนื่อง
ชาวเน็ตรายหนึ่งในเมืองหนิงโปทางตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียงได้คอมเมนต์ว่า “มันไม่ง่ายเลย” ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเว่ยป๋อ (Weibo) ในโพสต์ของภาพโฆษณาร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งที่รับสมัครพนักงานแคชเชียร์อายุระหว่าง 18-30 ปี โดยโพสต์แสดงความไม่พอใจดังกล่าวดึงดูดผู้เข้าชมกว่า 140 ล้านวิว และจุดชนวนให้เกิดการสนทนากันถึง 41,000 ครั้ง ซึ่งรวมถึงความคิดเห็นสะเทือนอารมณ์มากมาย
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานรายหนึ่งถามกับคนอื่น ๆ ว่า “หางานยากไหมตอนที่อายุเกิน 35 แล้ว” พร้อมแนบอีโมจิที่แสดงถึงความขมขื่น ขณะที่ชาวเน็ตคนอื่น ๆ กล่าวว่า “คิดว่าทุกวันนี้หางานง่ายหรอ”, “ตอนนี้ลดลงมาเหลือ 30 ปีแล้ว ขณะที่อายุเกษียณก็เพิ่มขึ้น แล้วจะทำยังไงกับคนที่อยู่ตรงกลางนี่ล่ะ”
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังสื่อของรัฐระบุว่า จีนวางแผนที่จะเพิ่มอายุเกษียณเป็นระยะ ๆ เมื่อประชากรสูงวัยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอายุเกษียณของจีนถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยเกษียณอายุที่ 60 ปีสำหรับผู้ชาย และน้อยกว่าสำหรับผู้หญิงที่อาจจะเกษียณที่เมื่ออายุ 55 ปีจากงานออฟฟิศ หรือ 50 ปีหากทำงานในโรงงาน
อย่างไรก็ตาม จีนยังไม่ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงอายุเกษียณหรือประกาศกลยุทธ์ระดับชาติที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้แน่ใจว่ามีการจ้างงานยาวนานขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว สื่อของรัฐมุ่งเป้าไปที่นายจ้างด้วยพฤติกรรมการจ้างงานที่ “เลือกปฏิบัติ” ซึ่งรวมถึงการแสวงหาคนงานอายุน้อยกว่าและค่าจ้างที่ถูกกว่า ซึ่งถูกเรียกกันอย่างกว้างขวางว่า “คำสาปแห่งอายุ 35” โดยชาวเน็ตรายหนึ่งระบุบนเว่ยป๋อว่า “ฉันอายุ 29 … แต่ฉันถูกเลิกจ้างมาแล้วสามครั้งตั้งแต่เรียนจบ ตอนนี้ไม่มีใครตอบเรซูเม่ของฉันเลย แม้ว่าฉันจะ (เขียน) ว่าฉันยังโสดและไม่มีลูกก็ตาม”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 67)
Tags: จีน, วัยกลางคน, ว่างงาน