รมว.คลัง หวังจับเข่าคุยผู้ว่าแบงก์ชาติ ยุติความขัดแย้ง เดินหน้ากระตุ้นศก.

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังเดินทางเข้ากระทรวงคลังในการทำงานวันแรกว่า เตรียมนัดหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือถึงแนวนโยบายในการดูแลเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดความเข้าใจที่ดีและจบลงด้วยดี ถ้าทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของประเทศ ซึ่งส่วนตัวอยากให้ ธปท. ดูแลสถาบันการเงินให้มีสถานะการเงินที่เข้มแข็ง มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

“การหารือกับ ธปท. ในครั้งนี้คงไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว แล้วแต่ท่านจะคิดกัน ระหว่างนี้ในส่วนของกระทรวงคลังก็ต้องไปดูว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่ต้องหารือกัน ส่วนฝั่ง ธปท. ก็ต้องไปดูว่าจะมีประเด็นอะไรที่จะต้องมาคุยร่วมกันกับกระทรวงการคลัง ซึ่งส่วนตัวผมมักคุ้นกับท่านผู้ว่าแบงก์ชาติดี ผมมั่นใจ และทำงานอยู่ในแวดวงที่ไม่ต่างกันนัก ต่างกันแค่อายุ ดังนั้นสิ่งที่ผมเห็น ผมคิดว่าทุกคนมีมุมมองของตัวเอง ก็อาจจะมองกันไม่เห็นทั้งหมด ทางเราเห็นทางนี้ อีกทางหนึ่งก็อาจจะระวังทางนั้น สิ่งที่ต้องทำคือ มานั่งคุยกัน หาจุดยืน ตกผลึก เอาข้อเท็จจริงมาวางแล้วร่วมกันแก้ปัญหาให้ประเทศ พูดง่าย ๆ เพื่อประชาชน แต่ประชาชนในที่นี้ไม่ใช่แค่คนจน มันต้องทุกคน เพราะว่าทุกส่วนเชื่อมโยงกัน นี่คือสิ่งที่ผมพยายามจะบอก ส่วนจะหารือกันเมื่อไหร่นั้น ต้องดูว่าผู้ว่าการ ธปท. ว่างเมื่อไหร่ ผมว่างเมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่เชื่อว่าจะคุยกันในทันทีที่มีโอกาส คงไม่ใช่พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้

ส่วนตัวอยากให้ ธปท. ดูแลสถาบันการเงินให้มีสถานะเข้มแข็ง มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่อีกมุมก็อยากเห็นคนมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องมาดูว่าจะเร่งเศรษฐกิจอย่างไร ถ้าเร่งมากของแพงก็ต้องเบรกหน่อย แต่เราก็มองเห็นเรื่องหนึ่งที่ต้องหยิบมา ว่า วันนี้ของมันฝืดต่ำกว่าที่คาด เหยียบคันเร่งหน่อยดีไหม จะเหยียบอย่างไร ของบางอย่างเหยียบแล้วใช้เงิน บางอย่างเหยียบแล้วไม่ต้องใช้เงิน แต่ใช้นโยบายก็เหยียบได้แล้ว ผมคิดว่าค่อย ๆ คุยกันไป คุยภาษาเดียวกัน เชื่อว่าจริง ๆ แล้วน่าจะคุยภาษาไม่ต่างกันเท่าไหร่” นายพิชัย กล่าว

ส่วนในเรื่องความเป็นอิสระในการทำนโยบายของ ธปท. นั้น นายพิชัย ระบุว่า ทุกวันนี้เป็นอิสระอยู่แล้ว เป็นอิสระในเรื่องของความคิด อิสระในการวิเคราะห์ข้อมูล อิสระในทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ทางเลือกนั้นต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งในที่นี้คือการตอบสนองคนที่มาทำงานแทนประชาชน ซึ่งคือภาครัฐ ถ้าลงตัวอย่างนี้ก็จบ ก็แปลว่าอิสระ แต่ต้องดูว่าอิสระแล้วได้ win win หรือไม่ ทุกคนต้องได้

นายพิชัย กล่าวถึงข้อเสนอของ ธปท. ในเรื่องโครงการดิจิทัล วอลเล็ตว่า หลายข้อยอมรับ แต่บางข้อก็ต้องมาช่วยกันขยายความ เช่น เรื่องลดดอกเบี้ยจะทำให้คนใช้เงินมากขึ้นใช่หรือไม่ คำตอบคือ “ใช่” ถ้าไม่มีหนี้ หรือหนี้น้อย แต่วันนี้หนี้ไปไกลมากแล้ว ถึงดอกเบี้ยน้อยคนจะมีปัญญาใช้เงินหรือไม่ วันนี้เพียงแต่ต้องมาดูว่าทำอย่างไรให้คนมีเงินคืนหนี้ ให้มีกิน มันเป็นคนละบริบทกัน อยากให้ทุกคนมองภาพทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร

“โครงการดิจิทัล วอลเล็ต รัฐบาลไม่ได้เอาเงินมาให้เพื่อให้มีกินมีใช้ แต่เงินตรงนี้คือโอกาส โดยเฉพาะเรื่องการบริโภค เงินบางส่วนที่เคยต้องซื้อก็ไม่ต้องซื้อ ใช้จากดิจิทัลวอลเล็ต แล้วเอาเงินส่วนนั้นไปจ่ายหนี้แทน หรือเอาเงินไปซื้อของลงทุน มันมีหลายมุม ตรงนี้จึงเรียกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถามว่ากระตุ้นเศรษฐกิจทำไมต้องใหญ่ขนาดนี้ และในเวลานี้ เพราะเราต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าจีดีพีเราไปได้ เพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนจะถูกจะผิดจากนี้เดี๋ยวเรามาดูกัน” นายพิชัย ระบุ

อย่างไรก็ดี นายพิชัยได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ผู้ว่าการ ธปท. จะอยู่ทำงานถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า “เป็นคำถามที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” ส่วนกรณีที่มีการพูดว่าจะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ. ธปท. เพื่อลดความเป็นอิสระในการทำนโยบายนั้น มองว่า ไม่จำเป็น เพราะหากดูที่ตัวกฎหมายมีความเหมาะสมอยู่แล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ค. 67)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top