IUCN เผย 50% ของป่าชายเลนในโลกถูกคุกคาม

องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature – IUCN) ได้เปิดเผยผลการสำรวจครั้งล่าสุดว่า ระบบนิเวศป่าชายเลนครึ่งหนึ่งของโลกมีความเสี่ยงที่จะล่มสลาย เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และสภาพอากาศสุดขั้ว

ผลการสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (22 พ.ค.) ระบุว่า หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น พื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 25% ของโลกอาจจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมดภายใน 50 ปี โดยระบบนิเวศที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในอินเดีย ศรีลังกา และมัลดีฟส์ คาดว่าจะได้รับผลกระทบหนัก

นายมาร์กอส วัลเดอร์ราบาโน ผู้ดูแล “บัญชีแดง” (Red List) ของ IUCN กล่าวว่า “การประเมินทั่วโลกพบว่า 50% ของป่าชายเลนทั่วโลกมีความเสี่ยงที่จะพังทลาย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้มาก” โดยบัญชีแดงคือสิ่งที่ IUCN ใช้ในการประเมินภัยคุกคามทางระบบนิเวศ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ป่าชายเลนครอบคลุมประมาณ 15% ของแนวชายฝั่งของโลก โดยมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจ, การกรองน้ำ รวมถึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและสัตว์ทะเลอื่น ๆ

นอกจากนี้ ป่าชายเลนยังสามารถกักเก็บคาร์บอนได้ประมาณ 1.1 หมื่นล้านตัน และทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่คอยปกป้องชุมชนชายฝั่งจากเหตุพายุซัดฝั่งและน้ำท่วมอีกด้วย

สิงคโปร์สูญเสียแหล่งป่าชายเลนชายฝั่งเกือบทั้งหมดเนื่องจากมีการถมที่ดินอย่างกว้างขวาง ซึ่งขณะนี้ทางสิงคโปร์กำลังวางแผนโครงการฟื้นฟูป่าชายเลน เพื่อปกป้องแนวชายฝั่งทะเลที่อยู่ระดับต่ำจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ IUCN ซึ่งตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 250 คนเพื่อทำการสำรวจดังกล่าว และพบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการกระจายตัวของพื้นที่ป่าชายเลนแล้ว นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศยังได้รับแรงผลักดันจากการผันน้ำจืดเพื่อการชลประทานอย่างกว้างขวางอีกด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 67)

Tags: , , , , , ,
Back to Top