เงินบาทเปิด 33.78 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 33.65-33.85 รอปัจจัยใหม่

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.78 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.85 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบ กับสกุลเงินหลัก หลังบอนด์ยีลด์หรัฐฯ ปรับตัวย่อลง โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา

ส่วนปัจจัยในประเทศนั้นรอดูทิศทางของเงินทุนระหว่างประเทศ (Fund Flow) ในตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และการค้า ทองคำ

“บาทแข็งค่าลงมาจากเย็นวานนี้ตามทิศทางตลาดโลก ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคยังทรงตัวนิ่ง ๆ วันนี้คาดว่าบาทจะแกว่งตัวในกรอบ รอปัจจัยใหม่” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.65 – 33.85 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 153.137 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 152.97 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0815 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0808 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 33.794 บาท/ดอลลาร์

– คลัง-ธปท.นัดถกกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2568 ในวันนี้ ก่อนสรุปเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนประกาศใช้ คาด คลังเสนอขยับกรอบเพิ่ม 0.5% เป็น 1.5-3.5% โดยยังคงระยะห่างการบริหารเงินเฟ้อที่ 2% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

– กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ เลขานุการบริษัทและกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL)เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปนั้น มองว่ายังสามารถขยายตัวได้ จากปัจจัยขับเคลื่อนได้แก่ ภาคการส่งออกยังไปได้ดี การท่องเที่ยวที่ เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวและคาดการณ์ทั้งปีที่จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 36 ล้านคน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดย คาดว่าจีดีพีในปีนี้แม้จะโตต่ำกว่า 3% แต่ในปี 68 น่าจะเติบโตได้เกินกว่า 3% ขณะที่ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงหลักๆ มีอยู่ 2 ปัจจัย

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (28 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีราคาการใช้ จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (28 ต.ค.) โดยฟื้นตัวหลังจากร่วงลงในระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนจับตา ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตรา ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

– นักวิเคราะห์จากบริษัท TD Securities คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,800 ดอลลาร์ในสัปดาห์ นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

– ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร, ผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2567 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)

– นักลงทุนยังติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ โดยแพลตฟอร์มพนันออนไลน์ที่ถูกกฎหมาย เช่น BetOnline และ Bet365 ต่างก็เดิมพันว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง แม้ว่าโพลหลายสำนักบ่งชี้ว่า คะแนนนิยมระหว่างทรัมป์และคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต จะสูสีกันอย่างมากก็ตาม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ต.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top