
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปีนี้ จะสามารถขยายตัวได้มากกว่า 2.5% และมีโอกาสจะใกล้เคียงระดับ 3% ได้ ส่วนแนวโน้มทั้งปีนั้น ขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยสำคัญคือ มาตรการภาษีของสหรัฐที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยหลายหน่วยงานให้มุมมองที่แตกต่างกันไปว่าอาจจะมีผลกระทบต่อ GDP ปีนี้ให้ลดลงได้ตั้งแต่ 0.5-1.5%
อย่างไรก็ดี คงต้องให้มีความชัดเจนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ก่อน เพื่อที่จะสามารถประเมินในภาพรวมได้ โดยตนจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นรายไตรมาส
“ไตรมาส 1 มีแต่คนคาดว่าประมาณ 2% ถ้าถามผม ไตรมาส 1 น่าจะยังโอเค เชื่อว่าจะเกิน 2.5% แน่นอน และอย่างน้อยน่าจะใกล้เคียงที่ 3%” นายพิชัย กล่าว
จ่อทบทวนงบฯ ปี 69 ตั้งรับวิกฤติภาษี “ทรัมป์”-สร้างหนี้เป็นโจทย์สุดท้าย
พร้อมเชื่อว่า หากไม่มีปัจจัยเรื่องมาตรการภาษีของสหรัฐฯ เชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตได้เกิน 3% อยู่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ทยอยออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อหลายเศรษฐกิจของหลายประเทศต้องสะดุดลงจากมาตรการภาษีของสหรัฐ ซึ่งน่าจะเห็นผลกระทบที่ชัดเจนได้ราวไตรมาส 3 ของปีนี้
ดังนั้นเราจะมาหามาตรการ เพื่อทำให้ภาคส่วนต่าง ๆ ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด และเพื่อเตรียมตัวสำหรับในระยะ 1-3 ปีหน้าให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งรัฐบาลได้มีการเตรียมมาตรการเพื่อรองรับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวแล้ว โดยแนวทางหนึ่งคือการทบทวนงบประมาณปี 2569 โดยเฉพาะในโครงการที่ไม่เร่งด่วน ต้องไปดูว่าจะปรับเปลี่ยนได้อย่างไร เพื่อนำมาใช้ในโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน
ส่วนจะต้องมีการทบทวนโครงการดิจิทัล วอลเล็ตด้วยหรือไม่นั้น นายพิชัย ระบุว่า งบประมาณปี 2569 จะมีส่วนของโครงการดิจิทัล วอลเล็ตอยู่ไม่มาก มีเพียงนิดหน่อยเท่านั้น โดยยังไม่อยากไปพูดว่าจะมีการทบทวน จะตัดงบหรือไม่ตัดงบโครงการนี้ด้วยหรือไม่ คงต้องให้หน่วยงานกลับไปพิจารณาดูก่อน
“ถามว่าจะเอาเงินมาจากไหนเพื่อเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัวลง คงต้องบอกว่าตรงนี้มีหลายวิธี แต่เวลานี้เรื่องการสร้างหนี้ใหม่ คงเป็นโจทย์สุดท้ายของรัฐบาลที่จะทำ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทำถ้าไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ดังนั้นโจทย์แรกที่รัฐบาลมองคือ การทบทวนงบประมาณปี 2569 โยกมาใช้ในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน เรื่องนี้อาจจะต้องมีการหารือกันในสภาว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นแบบนี้ เราจะมีทางออกแบบใดได้บ้าง และการใช้จ่ายเม็ดเงินก็คงไม่ได้ใช้ทีเดียว ครั้งเดียว ข้อสำคัญของการใช้เงินคือ จะต้องมีโครงการให้ชัดเจน” นายพิชัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 พ.ค. 68)
Tags: GDP ไทย, กระทรวงการคลัง, พิชัย ชุณหวชิร, มาตรการภาษี, สหรัฐ