จอน วอยต์ นักแสดงรุ่นใหญ่ของฮอลลีวูด และสตีเวน พอล ผู้จัดการของเขา ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโก ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองได้ยื่นข้อเสนอต่อปธน.ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงแนวคิดในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสำหรับภาพยนตร์ที่ผลิตนอกเขตแดนสหรัฐฯ และหลังจากพูดคุยเสร็จสิ้นลงได้ไม่นาน ปธน.ทรัมป์ก็ประกาศว่าเขาได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เริ่มกระบวนการกำหนดภาษีศุลกากร 100% สำหรับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตในต่างประเทศและนำเข้ามาฉายในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ จอน วอยต์ ซึ่งเป็นบิดาของแองเจลินา โจลี นักแสดงสาวชื่อดังระดับแนวหน้าของฮอลลีวูด ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ให้เป็น “ทูตพิเศษ” ของฮอลลีวูด เมื่อต้นปีนี้ โดยข่าวการพูดคุยระหว่างทรัมป์กับวอยต์ได้รับการเปิดเผยโดยสตีเวน พอล ผู้จัดการของเขา ผ่านแถลงการณ์ที่ออกโดยบริษัทเอสพี มีเดีย กรุ๊ป (SP Media Group) ซึ่งเป็นบริษัทของพอล
แม้ว่าปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า ภาษีศุลกากรเหล่านั้นจะถูกนำไปบังคับใช้อย่างไร แต่ประกาศของเขาบนทรูธโซเชียลได้สร้างความตื่นตระหนกและความสับสนให้กับสตูดิโอผลิตภาพยนตร์และบริการสตรีมมิงทั่วทั้งฮอลลีวูด นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ร่วงลงในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันจันทร์ (5 พ.ค.) ซึ่งรวมถึงหุ้นเน็ตฟลิกซ์ (Netflix), พาราเมาท์ โกลบอล (Paramount Global), วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี (Warner Bros. Discovery) และวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney)
เอสพี โกลบอล มีเดีย เปิดเผยในวันจันทร์ว่า วอยต์และพอลได้ยื่นแผนที่ครอบคลุมต่อปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต้องทำ เพื่อเพิ่มการผลิตภาพยนตร์ในประเทศ โดยแผนดังกล่าวรวมถึงแรงจูงใจทางภาษีของรัฐบาลกลาง การจัดตั้งสนธิสัญญาการร่วมผลิตกับประเทศต่าง ๆ และเงินอุดหนุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเจ้าของโรงภาพยนตร์ บริษัทผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์และทำเนียบขาวได้ออกมาชี้แจงในวันจันทร์ว่า ภาษีศุลกากรเหล่านี้ยังไม่แน่นอนว่าจะถูกนำมาใช้ นอกจากนี้ หลังจากเกิดความวุ่นวายเกี่ยวกับโพสต์ของเขาในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ ปธน.ทรัมป์ได้ลดความร้อนแรงที่เกิดขึ้นด้วยการออกมากล่าวในวันจันทร์ว่า เขาจะสอบถามสตูดิโอฮอลลีวูดว่าพอใจกับข้อเสนอในการกำหนดภาษีศุลกากร 100% สำหรับภาพยนตร์ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ หรือไม่
“ผมไม่ต้องการทำร้ายอุตสาหกรรม ผมต้องการช่วยอุตสาหกรรม ดังนั้นเราจะพบปะหารือกับอุตสาหกรรม ผมต้องการให้แน่ใจว่าพวกเขาพอใจกับมัน เพราะเราให้ความสำคัญกับงานทั้งหมด” ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
ขณะที่จอน วอยต์ กล่าวในวันเดียวกันว่า เขารอคอยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลทรัมป์ สหภาพแรงงาน สตูดิโอ และผู้ให้บริการสตรีมมิง เพื่อช่วยกำหนดแผนในการรักษาอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ให้แข็งแกร่ง และนำการผลิตกลับมาสู่อเมริกามากขึ้น
“เราสามารถมั่นใจได้ว่า บริษัทผลิตภาพยนตร์อเมริกันจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตำแหน่งงานมากขึ้นจะยังคงอยู่ในประเทศของเรา และฮอลลีวูดจะกลับมาเป็นผู้นำโลกด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมอีกครั้ง ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมผ่านทางแรงจูงใจที่ชาญฉลาด นโยบายที่ทันสมัย และการสนับสนุนที่จำเป็น” จอน วอยต์กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 68)
Tags: ภาษีทรัมป์, ภาษีภาพยนตร์, ภาษีศุลกากร, ฮอลลีวูด, โดนัลด์ ทรัมป์