บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นทั้งหมดในสายการบินไทยแอร์เอเชีย (TAA) รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 1,387.2 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 409.1 ล้านบาทในไตรมาส 1/67 ซึ่งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้อยู่ที่ 110.8 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (2,049.4) ล้านบาทในไตรมาส 1/67
โดยมีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน) รวม 1,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 13,225 ล้านบาท ลดลง 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากปริมาณการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง
ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนต่อปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (CASK) อยู่ที่ 1.73 บาท ลดลง 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ CASK ที่ไม่รวมค่าน้ำมัน อยู่ที่ 1.13 บาท ลดลง 3% โดยรายได้ต่อปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (RASK) อยู่ที่ 1.97 บาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ในไตรมาส 1/68 ปริมาณขนส่งผู้โดยสาร 5.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสาร 87% และมีปริมาณที่นั่ง (Capacity) ให้บริการอยู่ที่ 6.4 ล้านที่นั่ง เพิ่มขึ้น 9% โดย TAA ได้ขยายฝูงบินด้วยการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A321neo เพิ่ม 1 ลำในไตรมาสนี้ รวมเป็น 61 ลำ (ปฏิบัติการจริง 55 ลำ) พร้อมรับเพิ่มอีก 1 ลำ ในเดือน เม.ย.68 และกำหนดรับเพิ่มอีก 4 ลำในครึ่งปีหลัง จนครบ 66 ลำตามแผนที่วางไว้
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV และ TAA กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 สะท้อนความสามารถในการปรับตัวของบริษัท เพื่อความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่ง TAA ครองส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 42% ในสิ้นเดือนมี.ค. ความสำเร็จนี้ส่วนหลักเกิดจากกลยุทธ์การให้บริการ 2 สนามบินของเรา ทั้งดอนเมือง (DMK) และสุวรรณภูมิ (BKK) ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างดี
เส้นทางตลาดในประเทศของ TAA ยังแข็งแกร่ง โดยไตรมาสนี้ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศรวม 3.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นสัดส่วน 67% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดในไตรมาสนี้ มีอัตราขนส่งผู้โดยสารสูงถึง 91% โดย TAA ขยายเครือข่ายเส้นทางบินจากฐานปฏิบัติการบินสุวรรณภูมิ (BKK) ให้บริการเส้นทางใน 2 เส้นทางใหม่ในเดือน ก.พ. ได้แก่ สุวรรณภูมิ สู่ ขอนแก่นและอุดรธานี และยังเปิดสำรองที่นั่ง 3 เส้นทางใหม่ ได้แก่ สุวรรณภูมิ สู่สุราษฎร์ธานี บุรีรัมย์ และนราธิวาส ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป
“เส้นทางระหว่างประเทศยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ตลาดในเอเชียตะวันออก เช่น จีน ฮ่องกง และมาเก๊า ยังโตช้ากว่าที่คาดการณ์ ในขณะที่ตลาดเอเชียใต้ และเส้นทาง Fifth Freedom ใหม่ๆ เช่น เชียงใหม่–ไทเป–ซัปโปโร สามารถสร้างโอกาสได้ดี ทั้งนี้เราพร้อมสนับสนุนภาครัฐและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการร่วมสร้างความเชื่อมั่นและจัดแคมเปญต่างๆ ในตลาดจีน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นทางเลือกแรกของนักท่องเที่ยวจีนในการเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง”
“บริษัทคาดการณ์ขนส่งผู้โดยสารตลอดปี 23-24 ล้านคน ด้วยอัตราขนส่งผู้โดยสารใกล้เคียง 90% และขยายฝูงบินเป็น 66 ลำภายในสิ้นปี ซึ่งจะช่วยวางรากฐานที่มั่นคง พร้อมคว้าโอกาสสำหรับฤดูท่องเที่ยวต่อไป” นายสันติสุข กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 68)
Tags: AAV, หุ้นไทย, เอเชีย เอวิเอชั่น