บรรดาผู้ส่งออกเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาจะลดลงเฉลี่ย 4.9% ในปี 2568 โดยได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ผลสำรวจบริษัทด้านการส่งออก 150 แห่ง ซึ่งจัดทำโดยโมโน รีเสิร์ช (Mono Research) ภายใต้การควบคุมของสหพันธ์อุตสาหกรรมแห่งเกาหลี (FKI) ระบุว่า เมื่อจำแนกตามภาคอุตสาหกรรม คาดว่ายอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะร่วงลงหนักสุดถึง 8.3% รองลงมาคืออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ 7.9% ตามมาด้วยอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 7.2% และอุตสาหกรรมเครื่องจักรทั่วไป 6.4%
ในทางกลับกัน คาดว่าอุตสาหกรรมการต่อเรือและเภสัชกรรมจะมียอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% และ 1.6% ตามลำดับ แม้จะมีข้อกังวลด้านภาษีศุลกากรอยู่ก็ตาม
ผู้ตอบแบบสำรวจ 81.3% เชื่อว่ามาตรการภาษีศุลกากรจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจของทั้งสองประเทศ ขณะที่ 14.7% เชื่อว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อบริษัทเกาหลีใต้ แต่จะเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทอเมริกา
ในแง่ของการตอบสนองของรัฐบาลนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจ 44.6% เรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อลดภาษีศุลกากร ขณะที่ 13.6% เรียกร้องให้มีการสนับสนุนการกระจายตลาดส่งออก ส่วนอีก 13.1% แนะนำให้ขยายรายการสินค้าปลอดภาษี และ 9.4% แนะนำให้เจรจาเพื่อให้เกาหลีใต้ได้รับอัตราภาษีศุลกากรเท่ากับประเทศคู่แข่งทางการค้าอื่น ๆ
เจ้าหน้าที่จาก FKI กล่าวว่า “รัฐบาลควรติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับภาษีศุลกากรอย่างใกล้ชิด ดำเนินการขจัดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และพัฒนากลยุทธ์การเจรจาเพื่อลดผลกระทบต่อผู้ส่งออกในประเทศให้เหลือน้อยที่สุด”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 68)
Tags: มาตรการภาษี, ส่งออก, สหรัฐ, เกาหลีใต้, โดนัลด์ ทรัมป์