ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เตรียมเปิดประชุมประจำปีร่วมกับสถาบันวิจัยในเครือเป็นเวลา 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้ (27 พ.ค.) ที่สำนักงานใหญ่กรุงโตเกียว โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางออสเตรเลีย รวมถึงนักวิชาการจากภูมิภาคเอเชียและยุโรปเข้าร่วม ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญระดับโลก คล้ายกับการประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็กสันโฮลในสหรัฐฯ
แม้การประชุมส่วนใหญ่จะไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วม และเนื้อหาเน้นเชิงวิชาการเป็นหลัก แต่ธีมในปีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมุ่งเน้นไปที่ความท้าทายใหม่สำหรับนโยบายการเงิน ทั้งในเรื่องเงินเฟ้อที่ยังไม่ลดลง ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะชะลอตัว ความผันผวนของตลาดการเงิน และผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
หัวข้อหนึ่งที่อยู่ในวาระการประชุมได้แก่ การวิเคราะห์เรื่องความต้องการเงินสำรอง การควบคุมอัตราดอกเบี้ย และนโยบายคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) รวมถึงการอภิปรายบทความล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่เผยแพร่เมื่อเดือนธ.ค. 2567 ซึ่งเน้นย้ำถึงความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อที่น่ากังวล โดยอธิบายว่าสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่ออุปทาน เช่น วิกฤตโควิด-19 อาจก่อให้เกิดเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อ และเตือนว่าธนาคารกลางไม่ควรเพิกเฉยต่อแรงกดดันด้านต้นทุน
การที่ธนาคารกลางต่าง ๆ ต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันหลายด้านพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง หรือความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้การกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องท้าทายมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปัจจัยเสี่ยงส่วนหนึ่งมาจากนโยบายภาษีและการค้าแบบแข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 68)
Tags: BOJ, กรุงโตเกียว, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, มาตรการภาษี, เงินเฟ้อ