กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (27 พ.ค.) ว่า ญี่ปุ่นสูญเสียสถานะเจ้าหนี้รายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี โดยถูกเยอรมนีแซงหน้าขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทน แม้ว่าสินทรัพย์สุทธิในต่างประเทศของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของเงินเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างข้อมูลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นว่า ณ สิ้นปี 2567 สินทรัพย์รวมในต่างประเทศของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 12.9% จากปีก่อนหน้า แตะที่ระดับ 533.05 ล้านล้านเยน (3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งแม้ว่าจะสูงกว่าระดับ 500 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรก แต่ยอดรวมยังต่ำกว่าสินทรัพย์ของเยอรมนีซึ่งอยู่ที่ 569.65 ล้านล้านเยน
กระทรวงการคลังระบุว่า การอ่อนค่าของเงินเยนช่วยให้สินทรัพย์สกุลเงินต่างประเทศที่ญี่ปุ่นถือครองอยู่มีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อแปลงเป็นสกุลเงินเยน โดยสินทรัพย์เหล่านี้รวมถึงหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์อื่น ๆ ขณะที่เยอรมนีได้รับประโยชน์จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมาก
ญี่ปุ่นได้เพิ่มการถือครองสินทรัพย์สุทธิในต่างประเทศเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยสินทรัพย์รวมในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 11.4% สู่ระดับ 1,659.02 ล้านล้านเยน ซึ่งได้แรงหนุนจากการที่สถาบันการเงินและบริษัทเทรดดิ้งของญี่ปุ่นเข้าลงทุนโดยตรงในสหรัฐฯ
ส่วนหนี้สินของญี่ปุ่นในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10.7% แตะระดับ 1,125.97 ล้านล้านเยน โดยกระทรวงการคลังระบุว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซื้อขายอยู่ที่ 157.89 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 11.7% จากระดับ 141.40 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้า
เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศและภูมิภาค พบว่าญี่ปุ่นเป็นผู้ถือครองสินทรัพย์สุทธิในต่างประเทศรายใหญ่อันดับสอง ตามมาด้วยจีนซึ่งถือครองสินทรัพย์สุทธิ 516.28 ล้านล้านเยน ในทางตรงกันข้าม สหรัฐฯ มีหนี้สินสุทธิในต่างประเทศ 4,109.26 ล้านล้านเยน ซึ่งบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ มีหนี้สินในต่างประเทศสูงกว่าสินทรัพย์ที่ถือครองในต่างประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 68)
Tags: กระทรวงการคลังญี่ปุ่น, ญี่ปุ่น, เจ้าหนี้, เยอรมนี