
TOP ร่วง 6.03% ลดลง 1.75 บาท มาที่ 27.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 844.34 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.30 น. จากราคาเปิด 29.25 บาท ราคาสูงสุด 30.25 บาท และราคาต่ำสุด 27.25 บาท
กรมเจ้าท่าระบุว่า เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล จากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของ บมจ.ไทยออยล์ [TOP] ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี สาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเล
บมจ.ไทยออยล์ [TOP] ชี้แจงว่า วานนี้เวลาประมาณ 23.54 น.เกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล SBM-2 ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เนื่องจากเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน บริษัทได้ดำเนินการหยุดการขนถ่ายน้ำมัน ตามระเบียบวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามมาตรฐาน หลังจากนั้นระบบป้องกันของทุ่น SBM-2 (Breakaway Coupling) ได้ทำงานตามที่ออกแบบไว้ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐานความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่วาล์วของระบบป้องกันของทุ่นกำลังปิดจะมีน้ำมันบางส่วนไหลออกมา ซึ่งระบบดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบทุ่น SBM-2 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการวางบูมก่อนการขนถ่ายน้ำมันดิบไว้อยู่แล้ว ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติม และระบบทุ่น SBM-z ไม่ได้เกิดความเสียหาย
ส่วนคราบน้ำมันบนผิวน้ำทะเลเกิดจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงทำให้น้ำมันบางส่วนหลุดออกจากแนวบูม และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ กำลังดำเนินการขจัดคราบน้ำมันตามแผนปฏิบัติการของโรงกลั่น และได้บูรณาการร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการขจัดคราบน้ำมัน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า TOP เกิดเหตุน้ำมันรั่วเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล แม้ผลกระทบจะไม่มาก แต่ยังไม่มี timeline ที่ชัดเจนในการ Resume operation ของ SBM#2
โดยเหตุการณ์ – 5 มิ.ย. 2025 เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ระหว่างที่ระบบป้องกันความเสียหายของ SBM-2 (Breakaway Coupling) ทำงานตามมาตรฐานความปลอดภัยจากเหตุ เนื่องจากระหว่างขนถ่ายน้ำมันเกิดเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Conference call ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับ SBM#2 เนื่องจากระบบถูกออกแบบมาให้มีการปลดอออกจาก SBM#2 ในกรณีที่เกิดเหตุสุวิสัย ปัจจุบันน้ำมันที่รั่วไหลมีการควบคุมได้แล้วและไม่มีการรั่วเพิ่มเติม TOP ร่วมกับภาครัฐในการขจัดคราบน้ำมันทั้งหมด ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าวมีประกันครอบคลุมไว้ทั้งหมด
โดยผลกระทบค่อนข้างจำกัด เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลในครั้งนี้อยู่ที่ 8,000 ลิตร (ปริมาณน้ำมันที่อยู่ใน containment boom ประมาณ 3 พันลิตร และอยู่นอก containment boom ประมาณ 5 พันลิตร) น้อยกว่าเหตุการร์รอบก่อนของ TOP ที่เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหล 60,000 ลิตร เมื่อ ก.ย. 2023 และน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรณีของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ในปี 2556 และ 65
อย่างไรก็ตามการกลับมา Resume operation ของ SBM#2 ยังไม่ชัดเจน แต่ด้วยปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลค่อนข้างจำกัด ทำให้เราคาดว่าการกลับมา resume operation จะไม่นานเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 66 อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ SBM#2 หยุดดำเนินการ จะทำให้ TOP มีค่าใช้จ่าย Ship-to-Ship ประมาณ 0.5 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งทุกๆ 1 ไตรมาสที่มีการเลื่อนเปิดดำเนินงาน SBM#2 จะกระทบประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ประมาณ 5% แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 27 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Tags: TOP, หุ้นไทย, ไทยออยล์