กลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ยี่ห้อ NETA จากทั่วประเทศ ได้เข้าพบและยื่นหนังสือถึงกรมสรรพสามิต เพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริง และหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ บริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาระบุว่า ยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ตามโครงการ EV 3.0 และ EV 3.5 แม้แต่คันเดียว ซึ่งกลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถ NETA มีความประสงค์จะขอข้อมูลยืนยันจากกรมสรรพสามิต ว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของบริษัทเนต้าฯ เป็นความจริงหรือไม่ เพราะบริษัทฯ ค้างชำระเงินกลุ่มผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมกันมากกว่า 400 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังต้องการหารือเรื่องการรับประกันคุณภาพสินค้า แบตเตอรี่รถยนต์ รวมถึงอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งบริษัท เนต้าฯ เคยสื่อสารกับลูกค้าว่าจะดูแลรับประกันคุณภาพสินค้าแบตเตอรี่นาน 5-8 ปี ดังนั้นความพร้อมเรื่องของอะไหล่ที่ต้องใช้ จะมีมาตรการดูแลลูกค้าอย่างไร หากเนต้าย้ายออกไปจากประเทศไทย
“กลุ่มผู้แทนจำหน่าย มีความกังวลถึงผลกระทบต่อผู้บริโภค หากกลุ่มผู้แทนจำหน่ายไม่ได้รับการชำระหนี้ และไม่มีวงเงินรองรับการรับประกันคุณภาพสินค้าตามที่กล่าวไว้ อาจส่งผลให้ผู้แทนจำหน่าย ไม่สามารถให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าเจ้าของรถยนต์ NETA ซึ่งมีอยู่มากกว่า 20,000 คันทั่วประเทศได้อย่างเต็มที่ และต่อเนื่อง” กลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า NETA ระบุ
ด้านนายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวภายหลังการรับหนังสือจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ NETA ว่า กรมฯ รับทราบประเด็นปัญหาดังกล่าวไม่แตกต่างกัน โดยยืนยันว่าในฐานะที่กรมสรรพสามิต ดูแลเรื่องมาตรการทางภาษี ที่ผ่านมาได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้การใช้เม็ดเงินภาษีเป็นไปอย่างคุ้มค่าและถูกต้องตามมาตรการที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการคนไทยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวอย่างเต็มที่ด้วย
พร้อมยืนยันว่า ก่อนหน้านี้กรมฯ ได้จ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนดตามลำดับ ซึ่งบริษัทเนต้าฯ ได้รับเงินอุดหนุนส่วนใหญ่ไปแล้ว จนถึงช่วงหนึ่งที่พบว่าสภาพคล่องของบริษัทมีปัญหา ทำให้กำลังการผลิตชดเชยไม่เป็นไปตามแผน กรมฯ จึงได้ชะลอการจ่ายเงินอุดหนุนส่วนที่เหลือ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยเอาไว้ก่อน เนื่องจากบริษัทได้มีการส่งหนังสือแจ้งมาที่กรมฯ ชัดเจนว่า “ไม่สามารถผลิตชดเชยได้ตามแผน”
กรมฯ จึงได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทางบริษัท เนต้าฯ นำหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) มาวาง เพื่อเป็นการรับประกันความเสี่ยงเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่จนถึงขณะนี้ ทางบริษัทเนต้าฯ ก็ไม่ได้เข้ามายื่น Bank Guarantee ดังนั้นกรมฯ จึงยังไม่ได้มีการจ่ายเงินอุดหนุนส่วนที่ชะลอไว้ โดยขอยืนยันอีกครั้ง ว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
“ในมิติของงานด้านภาษี กรมฯ ต้องใช้ความรอบคอบ ระมัดระวัง และพิจารณาอย่างเป็นธรรมที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้ประโยชน์ แต่ในภาคธุรกิจในบางประเด็นอาจจะพ้นวิสัยของกรมฯ ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ดูแล เพราะบางสิ่งก็เป็นเรื่องของสัญญาทางธุรกิจ เป็นข้อผูกพันทางการค้า ซึ่งในส่วนนี้เชื่อว่าทุกคนจะใช้มาตรการของตัวเองดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนเงินอุดหนุนที่ค้างอยู่นั้น หากบริษัท เนต้าฯ จะรับ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วน” นายภาณุพงศ์ ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 68)
Tags: NETA, กรมสรรพสามิต, ภาณุพงศ์ ศรีเกตุ, รถยนต์ไฟฟ้า, เนต้า ออโต้