ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันอังคาร (17 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เตรียมขยายเส้นตายเป็นครั้งที่ 3 ให้กับไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต๊อก (TikTok) ในการขายกิจการในสหรัฐฯ โดยแอปฯ ติ๊กต๊อกจะยังคงให้บริการในสหรัฐฯ ต่อไปได้ระหว่างที่การเจรจาเพื่อขายกิจการยังดำเนินอยู่
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า “ตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันหลายครั้งว่า เขาไม่ต้องการให้ติ๊กต๊อกกลายเป็นจอดำ” พร้อมระบุว่า “การขยายเวลาครั้งนี้จะมีระยะเวลา 90 วัน โดยฝ่ายบริหารจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อผลักดันให้ข้อตกลงเสร็จสิ้น เพื่อให้ประชาชนชาวอเมริกันสามารถใช้งานติ๊กต๊อกต่อไปได้อย่างมั่นใจว่าข้อมูลของพวกเขาจะปลอดภัย”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นี่จะถือเป็นการขยายเวลาเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยก่อนหน้านี้เขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเลื่อนการแบนติ๊กต๊อกออกไป 75 วัน เพื่อให้ฝ่ายบริหารมีเวลาในการพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมเกี่ยวกับติ๊กต๊อก และต่อมาในเดือนเม.ย. เขาได้ขยายเวลาออกไปอีก 75 วันเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการให้บริการของแอปฯ โดยเส้นตายล่าสุดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 19 มิ.ย.นี้
ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น ทรัมป์เคยลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเป้าหมายเพื่อแบนติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ เว้นเสียแต่ว่า ไบต์แดนซ์จะขายกิจการติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ ให้กับบริษัทอเมริกัน แต่คำสั่งนั้นไม่ได้มีผลบังคับใช้ เนื่องจากถูกท้าทายทางกฎหมาย
ในเดือนเม.ย. 2567 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามในกฎหมายที่ให้เวลาไบต์แดนซ์ 270 วันในการขายกิจการติ๊กต๊อก โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ซึ่งถูกฝ่ายวิจารณ์มองว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่มีมูล ซึ่งหากไบต์แดนซ์ไม่ปฏิบัติตาม แอปฯ ติ๊กต๊อกจะถูกถอดออกจากร้านแอป เช่น แอปเปิ้ล สโตร์ (Apple Store) และกูเกิล เพลย์ (Google Play) ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2568
ทั้งนี้ ติ๊กต๊อกเคยหยุดให้บริการไปหลายชั่วโมงในวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เพียงหนึ่งวันก่อนทรัมป์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในสมัยที่สอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 68)
