BoE จ่อคงดอกเบี้ยที่ 4.25% วันนี้ จับตาเงินเฟ้อ-ความเสี่ยงจากตะวันออกกลาง

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ถูกคาดหมายว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมวันนี้ (19 มิ.ย.) เพื่อรอดูทิศทางของภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อว่าจะชะลอลงต่อไปหรือไม่ รวมถึงความเสี่ยงจากราคาพลังงานที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน

แรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะในเดือนพ.ค.ที่ตัวเลขเงินเฟ้อลดลงจากระดับสูงในเดือนเม.ย. และราคาในภาคบริการ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ BoE นั้น ได้ลดลงอย่างรุนแรง ขณะที่ตลาดแรงงานก็แสดงสัญญาณอ่อนแอลง และค่าจ้างขยายตัวช้าลง

ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษในเดือนเม.ย.หดตัวลงแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งปัจจัยหลักมาจากผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้าที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ประกาศใช้ รวมถึงผลกระทบชั่วคราวจากการสิ้นสุดนโยบายลดหย่อนภาษีในภาคอสังหาริมทรัพย์

แม้แต่ช่วงก่อนที่จะเกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลางนั้น BoE ก็มีแนวโน้มดำเนินนโยบายด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว โดยคาดว่าแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) จะแสดงท่าทีระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกว่า 8.5% ในระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์หลังสถานการณ์อิหร่าน–อิสราเอลปะทุขึ้น

ทั้งนี้ ผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า MPC จะลงคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 เพื่อคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ในการประชุมรอบนี้

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากจากทั้งหมด 60 รายคาดว่า BoE จะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรก 0.25% ในเดือนส.ค. ก่อนจะปรับลดอีกครั้งหนึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปลายปีนี้อาจอยู่ที่ระดับ 3.75% ลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 4.25%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 68)