
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล แถลงในวันนี้ (24 มิ.ย.) ว่า อิสราเอลได้ตกลงรับข้อเสนอหยุดยิงกับอิหร่านที่เสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ โดยการตัดสินใจนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีหลายระลอก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลอย่างน้อย 4 ราย โดยอิสราเอลระบุว่าได้บรรลุเป้าหมายในการกำจัดภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธของอิหร่านแล้ว
สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์โดยกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ สำหรับ “การสนับสนุนด้านการป้องกันประเทศ และการมีส่วนร่วมในการกำจัดภัยคุกคามนิวเคลียร์ของอิหร่าน” พร้อมกันนี้ยังได้ระบุว่า “เนื่องด้วยปฏิบัติการได้บรรลุเป้าหมาย และผ่านการประสานงานอย่างเต็มที่กับประธานาธิบดีทรัมป์ อิสราเอลจึงตกลงรับข้อเสนอของประธานาธิบดีในการหยุดยิงร่วมกัน”
ด้านปธน.ทรัมป์ได้ยืนยันในวันเดียวกันว่า ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านมีผลบังคับใช้แล้ว พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด ขณะที่นายกฯ เนทันยาฮู ซึ่งมีกำหนดจะแถลงข่าวอีกครั้งในช่วงค่ำ กล่าวเสริมว่าอิสราเอลพร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรงหากมีการละเมิดข้อตกลงเกิดขึ้น
เหตุการณ์ล่าสุดนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่อิสราเอล โดยการสนับสนุนของสหรัฐฯ ได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์หลายแห่งของอิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าอิหร่านใกล้จะสามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว
ทั้งนี้ อิหร่านปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เคยมีโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เคยกล่าวไว้ว่า หากอิหร่านต้องการจะมีอาวุธนิวเคลียร์จริง บรรดาผู้นำโลกก็ “ไม่สามารถหยุดยั้งเราได้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 68)