ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน นักลงทุนจับตาทิศทางมาตรการภาษีทรัมป์

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (27 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาทิศทางมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจขยายเวลาการระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ที่กำหนดไว้ 90 วัน ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 9 ก.ค.นี้

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 40,215.36 จุด พุ่งขึ้น 630.78 จุด หรือ +1.59%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,309.68 จุด ลดลง 15.72 จุด หรือ -0.06% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,441.30 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ -0.21%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.16% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ลดลง 0.76%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าพุ่งขึ้น หลังจากแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงข่าวว่า ปธน.ทรัมป์อาจจะขยายเวลาการระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ โดยกล่าวว่ากำหนดเส้นตายวันที่ 9 ก.ค. ไม่เร่งรีบถึงขั้นวิกฤต อย่างไรก็ดี การตัดสินใจในเรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับปธน.ทรัมป์

คำแถลงของเลวิตต์มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นและประเทศคู่ค้าหลัก ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงเจรจากับทีมการค้าของปธน.ทรัมป์เพื่อขอผ่อนปรนภาษี หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้านับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าอ่อนแรงลง หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลง 9.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 7 เดือน

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนยังไม่มากพอที่จะสนับสนุนความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในภาคส่วนดังกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 68)