ติ๊กต๊อก (TikTok) แอปวิดีโอสั้นยอดนิยมของบริษัทไบต์แดนซ์ (Bytedance) ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ รอบ 3 นับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยปรับลดพนักงานแผนกติ๊กต๊อก ช้อป (TikTok Shop) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านการขายสินค้าออนไลน์
โฆษกของติ๊กต๊อกระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (2 ก.ค.) ว่า บริษัทจำเป็นต้องทบทวนการดำเนินงานเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว พร้อมยอมรับว่า การปรับลดพนักงานครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ขององค์กร
อย่างไรก็ดี ติ๊กต๊อกไม่ได้เปิดเผยจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดครั้งล่าสุด
รายงานระบุว่า ติ๊กต๊อก ช้อป ในสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันจากยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการลดพนักงานมาแล้วสองรอบในเดือนเม.ย.และพ.ค. นอกจากนี้ บริษัทยังปรับเปลี่ยนบุคลากร โดยลดบทบาทของพนักงานที่จ้างในสหรัฐฯ และเพิ่มผู้บริหารที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน เพื่อถอดแบบความสำเร็จของไบต์แดนซ์ในตลาดเอเชียมาปรับใช้ในสหรัฐฯ
แม้มีการปรับโครงสร้างหลายครั้ง แต่ติ๊กต๊อก ช้อปยังคงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของแพลตฟอร์ม และเป็นกลยุทธ์สำคัญระดับโลกของไบต์แดนซ์ โดยในปีที่ผ่านมา ติ๊กต๊อก ช้อป ได้ขยายตลาดสู่ 5 ประเทศในยุโรป รวมถึงเยอรมนีและสเปน
ทั้งนี้ อนาคตของติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ ยังเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากบริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกแบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ ที่ผ่านในปี 2567 กำหนดให้ไบต์แดนซ์ต้องขายกิจการติ๊กต๊อก หากต้องการดำเนินธุรกิจต่อไปในสหรัฐฯ ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ซื้อ TikTok แล้ว รอเพียงการอนุมัติจากรัฐบาลจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 68)
